FETCO เสนอตลท.เข้มงวดกับบจ.ที่ปิดกั้นข้อมูล-ตั้งศูนย์พัฒนานักวิเคราะห์ พร้อมผลักดันแก้กม.หวังเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 28, 2018 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ นลินทรางกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาที่พบเกี่ยวกับบทวิเคราะห์มีน้อยและไม่ครอบคลุมทุกบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพราะบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งปิดกั้นการเข้าเยี่ยมชมกิจการต่อนักวิเคราะห์และนักลงทุน ส่งผลให้มีข้อมูลไม่เพียงพอสำหรับการทำบทวิเคราะห์และการประเมินแนวโน้มธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและเล็ก ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯควรมีมาตรการที่เข้มงวดหรือควรขึ้นเครื่องหมายกำกับบริษัทในกลุ่มนี้ เพราะการเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ฯมีกฎที่ชัดเจนในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกบริษัทต้องทำตาม และไม่ควรเกิดการปิดกั้นการให้นักลงทุนหรือนักวิเคราะห์ในการเข้าถึงข้อมูล

นอกจากปัญหาของการปิดกั้นข้อมูลที่ส่งผลให้มีบทวิเคราะห์ออกมาไม่ครอบคลุมแล้วนั้น ปัญหาด้านจำนวนนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมที่มีจำนวนอยู่เพียง 280 คนในปัจจุบัน ลดลงจากเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีกว่า 300 คนทำให้ไม่สามารถที่จะออกบทวิเคราะห์มาครอบคลุมบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ทั้งหมดในปัจจุบัน 800 บริษัท แต่มีจำนวนบทวิเคราะห์ออกมาเพียง 200 บริษัท และการที่มีบทวิเคราะห์ออกมาไม่ครอบคลุมและน้อย ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้ามาลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบทวิเคราะห์ที่ออกมาจะเป็นของหุ้นขนาดใหญ่ โดยอีกสิ่งที่อยากให้ตลาดหลักทรัพย์ฯช่วยส่งเสริมในเรื่องการพัฒนานักวิเคราะห์ เป็นการช่วยในการลงทุนจัดตั้งศูนย์พัฒนานักวิเคราะห์ (Academy) เพื่อพัฒนานักวิเคราะห์รุ่นใหม่ๆออกมามากขึ้น ซึ่งหากรอให้บริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้เดินหน้าในเรื่องดังกล่าวเองคงเป็นไปได้ยาก เพราะการลงทุนในเรื่องดังกล่าวทางบริษัทหลักทรัพย์อาจจะยังไม่มั่นใจว่าคุ้มค่าในการลงทุนหรือไม่ และทำแล้วอาจจขมีผลขาดทุนเกิดขึ้น เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมมีการแข่งขันกันสูง และค่าธรรมเนียมในการให้บริการก็ลดลงไปมาก หากมีการลงทุนในด้านอื่นๆเพิ่มเติมอีกอาจไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ซึ่งเรื่องนี้อยากให้หน่วยงานกำกับดูแล อย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้ามาดูแลในเรื่องของราคาไม่ให้แข่งขันกันสูงมาก และมีความไม่เป็นธรรม เพื่อช่วยให้ธุรกิจโบรกเกอร์ที่ทำบทวิเคราะห์อยู่รอดและเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบ เพราะปัจจุบันต้นทุนการทำบทวิเคราะห์ถือว่ามีต้นทุนสูง นอกจากนี้ FETCO ยังได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอแก้ไขกฏหมายให้สมาคมการค้าต่างๆสามารถเข้าลงทุนในตลาดหุ้นได้ โดยมองว่าปัจจุบันมีสมาคมต่าง ๆ จำนวนมากมีเงินทุน แต่ไม่สามารถลงทุนในตลาดทุนได้ เพราะผิดกฏหมาย ส่วนการปลดล็อคมูลนิธิและสหกรณ์ให้สามารถลงทุนได้นั้น ปัจจุบันชะลอแผนดังกล่าวออกไปก่อน เพราะมีความทับซ้อนทางกฏหมายและผลประโยชน์ค่อนข้างมาก "กระทรวงพาณิชย์รับเรื่องแล้วและไม่ติดขัดอะไร ก็น่าจะเข้าสู่กระบวนการแก้กฏหมายเร็วๆนี้ ซึ่งการปลดล็อคข้อจำกัดนี้จะเพิ่มฐานนักลงทุนและเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ ใกล้ตัวเลยก็คือ สมาคมโบรกเกอร์ของเราเอง มีเงินทุน มีความรู้ความสามารถในตลาดทุน แต่ไม่สามารถลงทุนได้ ซึ่งถือว่าเสียโอกาส"ไพบูลย์ กล่าว

ขณะเดียวกันได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแก้ไขกฏหมาย พ.ร.บ.มหาชน สำหรับอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจยุคดิจิทัล เช่น การส่งเอกสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มช่องทางการโฆษณานอกจากหนังสือพิมพ์ การเรียกประชุมกรรมการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อให้ทันยุคสมัยและลดต้นทุนของผู้ประกอบการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ