(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาด ตปท.ร่วงตามดาวโจนส์กังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 6, 2018 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงถ้วนหน้าหลังจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงลงไปกว่า 800 จุดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปัจจัยหลักมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 2 ปีขึ้นมาสูงกว่าพันธบัตรอายุ 5 ปี ทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัว จึงโยกเงินไปลงทุนเข้าไปที่สินทรัพย์ปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องข้อตกลง รวมถึงล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความกดดันไม่ให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก่อนที่การประชุมโอเปกจะมีขึ้นในวันนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ

พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,678 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ธ.ค.61) ปิดทำการวันนี้ ไว้อาลัยอดีตปธน.จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 152.83 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 19.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 470.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 22.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 66.66 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.92 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.69 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ธ.ค.61) 1,672.32 จุด ลดลง 0.29 จุด (-0.02%)
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติซื้อสุทธิ 5,386.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.62 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ธ.ค.61) ปิดที่ 52.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ธ.ค.61) ที่ 2.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.80 อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค หลังดอลล์แข็ง มองกรอบวันนี้ 32.75-32.85
  • สมาคมตลาด ตราสารหนี้ไทย เผยยอดออกหุ้นกู้ ภาคเอกชน 11 เดือนปีนี้พุ่งแตะ 8.15 แสนล้านบาท แซงหน้าช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 7.7 แสนล้านบาท พร้อมทะลุเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีนี้ที่ระดับ 8 แสนล้านบาท ด้านกลุ่มอาหาร-อสังหาฯ-ไฟแนนซ์-แบงก์พลังงาน แห่ระดมเงินนำโด่ง พร้อมตั้งเป้าปี 2562 ยอดระดมทุนคึกคักต่อเนื่องใกล้เคียงปีนี้
  • รัฐควักอุดหนุนราคาแอลพีจีเหลือเพียง 0.84 บาทต่อ กก. หลังราคาโลกเริ่มลดลง ก.พลังงานมั่นใจกรอบวงเงินที่กำหนดไว้ 7,000 ล้านบาทเพื่อดูแล ราคาแอลพีจีถัง 15 กก.ไม่เกิน 363 บาทเอาอยู่ได้ถึงสิ้นปีแน่นอน หลังล่าสุดควักดูแลติดลบแล้ว 5,092 ล้านบาท แต่ปี 62 จ้อง ขยับเพดานราคาแอลพีจีเพิ่มขึ้นเกิน 363 บาท/กก.หวังปลดล็อกการชดเชย ด้านสมาคมผู้ค้าแอลพีจีหนุนดูแลจนกว่ารัฐบาลใหม่ จะมาเพื่อลดค่าครองชีพ
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ขณะนี้การแข่งขันสินเชื่อรถยนต์ใหม่รุนแรงและไม่ปกติ พบการซื้อรถแล้วได้เงินทอนเหมือนกับการซื้อบ้านในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (ดีลเลอร์) เร่งปิดยอดขายและต้องการระบายสต๊อกรถ จึงให้ส่วนลดลูกค้าเพื่อใช้เงินดาวน์น้อยลง (ซัพดาวน์) แต่ยอดกู้กับสถาบันการเงินยังเป็นยอดดาวน์เต็มจำนวน ทำให้เกิดดีมานด์เทียม ซึ่งธนาคารไม่ต้องการให้เกิดดีมานด์เทียมเพราะหากกลายเป็นหนี้เสียธนาคารต้องรับภาระ อาจกระทบต่อระบบสินเชื่อยานยนต์ได้ หากยังเห็นสถานการณ์นี้ต่อไปเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้ามาดูแลคล้ายกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BDMS (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 30 บาท ผ่านพ้นช่วงการลงทุนใหญ่มาแล้ว จากที่ปี 2559 ซื้อปาร์คนายเลิศ ทำ BDMS Wellness clinic หรือ ศูนย์สุขภาพใหญ่สุดในเอเชีย ต่อจากนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไร
  • KBANK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 238 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 4.16 หมื่นล้านบาท ยังเห็นการเติบโตราว 3%Y-Y เนื่องจากคาดการณ์ Credit cost ที่ลดลงและ NIM ที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.5% ตามอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ด้านราคาหุ้นที่ลงมาซื้อขายบน PBV ปี 2562 เพียง 1.14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปีย้อนหลังที่ 1.4 เท่า น่าจะตอบรับความกังวลต่อเป้า NPL Ratio ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่ง Credit cost ที่ธนาคารปรับเป้าลง สะท้อนว่ายังควบคุมได้และไม่ได้กังวลมากนัก
  • CPN (ไอร่า) เป้า 90 บาท มองแผนการเปิดศูนย์การค้าใหม่ของ CPN จำนวน 2-3 แห่งต่อปี พร้อมการต่อยอดธุรกิจไปยังการพัฒนาโครงการอสังหาฯ แบบ Mixed Used อาทิ คอนโด The Escent ที่ได้รับการตอบรับดีขายหมด 100% ทุกโครงการ และการเข้าซื้อ GLAND (ยังไม่รวมในประมาณการ) ที่คาดจะช่วยต่อยอดการพัฒนาที่ดินในรูปแบบต่างๆ คาดช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และกำไรให้ต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 62 โตดีต่อเนื่องราว 12% จากรับรู้รายได้เต็มปีของศูนย์ Luxury ขนาดใหญ่ Central Phuket และรายได้ส่วนเพิ่มจากแผนการเปิด 3 ศูนย์ฯใหม่ (มาเลเซีย, อยุธยา และ Central Village ใกล้สุวรรณภูมิ), การปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าหลังปิดปรับปรุงศูนย์ฯ รวมถึงการทยอยปรับสัญญาเช่าระยะยาวเป็นระยะสั้น โดยคาดจะยังคงรักษาระดับ Occ. Rate ได้ในระดับสูงไม่ต่ำกว่า 94% และมี SSSG ดีต่อเนื่องราว 3-4% และแผนการส่งมอบ 3 โครงการคอนโด (มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ