ดัชนีหุ้นไทยต้นภาคเช้า ยืนระดับ 1,600 จุดไม่ได้อีกครั้ง โดยร่วงกว่า 10 จุด เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลง หลังดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืนนี้ดิ่งลงกว่า 500 จุด จากกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนจะรู้ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ขณะที่ราคาน้ำมันตลาดโลกร่วงลงแรง ฉุดให้มีแรงขายหุ้นที่เกี่ยวข้องทั้งพลังงานและปิโตรเคมีออกมากดดันตลาด
เมื่อเวลา 10.01 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,591.23 จุด ลดลง 10.25 จุด (-0.64%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.08 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,587.77 จุด ลดลง 13.71 จุด (-0.86%)
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันเป็นส่วนใหญ่ โดยตลาดบ้านเรารับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เป็นหลัก หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 14 เดือน อย่างไรก็ดี เมื่อดัชนีฯปรับตัวลงมามากก็มีลุ้นรีบาวด์ได้เช่นกัน
พร้อมให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย และการประชุมเฟด ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็จับตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าอย่างไร หากส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีหน้าไม่ถึง 3 ครั้ง ตลาดในเอเชียก็จะฟื้นตัวขึ้นได้ ส่วนวันนี้ให้ติดตามประธานาธิบดีของจีนจะพูดเกี่ยวกับการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯอย่างไรบ้าง ในวันครบรอบ 40 ปี การเปิดประเทศและการปฏิรูปประเทศ
โดยให้แนวรับ 1,585-1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด