หุ้น BEM พุ่งขึ้น 6.49% มาที่ 9.85 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 559.23 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.08 น. โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 9.50 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 9.85 บาท ราคาทำระดับต่ำสุดที่ 9.50 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ ลดลง 0.29%
บล.เคที ซีมิโก้ แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) โดยปรับราคาพื้นฐานของ BEM เพิ่มเป็น 11.30 บาท (จากเดิม 8.80 บาท) หรือคิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 2.50 บาท หลังล่าสุดคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีมติให้ต่ออายุสัมปทานทางด่วนขั้นที่สอง (SES) กับ BEM โดยประมาณการภายใต้สมมติฐาน ดังนี้ 1) ขยายอายุสัมปทานออกไปสิ้นสุดในปี 2600 2) ปรับอัตราค่าผ่านทางขึ้น 10 บาท ในปี 2573, 2583, และ 2593, 3) สมมติฐานจำนวนรถเพิ่มขึ้น 0.5% ต่อปี และ 4) เงินลงทุนรวม 40 พันล้านบาท กระจายในปี 2061-2567
ทั้งนี้ มติล่าสุดของ กทพ. ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดและยังอยู่ระหว่างการเจรจา รวมทั้งต้องผ่านขั้นตอนของภาครัฐฯ นอกจากนั้น คาดว่าสหภาพแรงงาน กทพ. อาจไม่เห็นด้วยกับมตินี้ อนึ่ง ในระยะสั้น BEM ยังมีปัจจัยบวกที่อาจส่งผลดีต่อราคาพื้นฐานได้อีก อาทิ ความคืบหน้าของการประมูลบริหารมอเตอร์เวย์ การพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการรถไฟฟ้า เป็นต้น
เมื่อวานนี้ นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ กทพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้หารือถึงแนวทางดำเนินการของกทพ. กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ ให้ กทพ. จ่ายเงินชดเชยแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงินประมาณ 4,200 ล้านบาท กรณีมีการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต เป็นทางแข่งขัน และกรณีข้อพิพาท การปรับค่าผ่านทาง กับ BEM ซึ่งข้อพิพาทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาทั้งหมด รวมกันทั้งสิ้นมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ บอร์ดกทพ.ได้พิจารณา เงื่อนไขและแนวทางเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตร(ครม. )ที่ให้หาแนวทางการแก้ปัญหา แก้ภาระหนี้ และให้กทพ.เจรจากับ เอกชน ซึ่งกทพ.มีทางเลือกจำกัด ระหว่างการจ่ายเงินชำระหนี้เอกชนเอง ซึ่งมีมูลค่าสูง และแนวทางการขยายเวลาสัมปทาน โดยได้ข้อสรุปในการเจรจาได้ทางออกร่วมกันที่ดี คือการขยายอายุสัญญาสัมปทาน ทางด่วนขั้น 2 ออกไปอีก 37 ปี โดยมีเงื่อนไขว่า จะยุติข้อพิพาทและยกภาระหนี้ทั้งหมด รวมถึงมีเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม