บล.เคทีบีฯ ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 16.77 ล้านหุ้นเข้า SET ระดมทุนขยายธุรกิจ-พัฒนาระบบบริการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 14, 2019 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ ศักดิ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) เปิดเผยว่า KTBST ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 62

ทั้งนี้ KTBST เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 16.77 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกโดยบริษัท 11.77 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เสนอขาย 5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 10.00 บาท ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 670 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญ 67 ล้านหุ้น โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 552.25 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้น 55.225 ล้านหุ้น

ด้านนายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร KTBST เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อขยายธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาระบบการให้บริการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดย KTBST มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นสถาบันการเงินในประเทศไทยที่มีความโดดเด่นในการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร พนักงานมีความสุขและภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับองค์กร โดย KTBST มุ่งหวังให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพนักงาน มีการเติบโตพร้อมกันอย่างยั่งยืน และมีส่วนช่วยสังคมในการพัฒนาตลาดทุน

KTBST ดำเนินธุรกิจ ให้บริการด้านการลงทุนแบบครบวงจร โดยบริษัทได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังประเภท ก ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ ได้แก่ บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ กองทุนส่วนบุคคล ตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม ธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ บริการวาณิชธนกิจ ที่ปรึกษาทางการเงิน และการให้บริการออกแบบการลงทุน (Wealth Advice)

และ KTBST ยังได้รับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราให้กับลูกค้าในการบริการธุรกรรมไปต่างประเทศอีกด้วย

ผลประกอบการของบริษัทย้อนหลัง (ปี 59-60) มีรายได้รวม 615.31 ล้านบาท และ 915.45 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.60 ล้านบาท และ 39.81 ตามลำดับ ในขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 61 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 890.38 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.07 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ