BKD เผยบ.ร่วมทุน"โกลด์ชอร์ส"เปิดโครงการน้ำประปาภูเก็ต-พังงา เฟสแรก กำลังผลิต 2.4 หมื่นลบ.ม./วัน คาดรายได้ปีแรกราว 40 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 24, 2019 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวิชา พานิชผล กรรมการ บริษัท โกลด์ชอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบมจ. บางกอกเดค-คอน (BKD) เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้จัดพิธีเปิดโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาเพื่อจังหวัดภูเก็ต-พังงาอย่างเป็นทางการ ซึ่งโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาดังกล่าว มีกำลังการผลิตสูงสุด 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน แบ่งเป็น 4 เฟส โดยเฟสแรกมีขนาดกำลังการผลิตเท่ากับ 24,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และเพิ่มขึ้นจนครบ 4 เฟส ซึ่งจะสามารถผลิตและจำหน่ายได้ครบทุกเฟส ภายในปี 2564 โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว อุตสาหกรรมและรัฐวิสหกิจ ขณะที่กลุ่มลูกค้ารอง คือ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและอื่นๆ

นายสุวิชา กล่าวต่อว่า บริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูเก็ต เพราะน้ำประปาถือเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงได้รับและเป็นพื้นฐานการพัฒนาประเทศชาติ จึงได้จัดหาที่ดินเพื่อดำเนินการพัฒนาเป็นแหล่งเก็บน้ำที่มีศักยภาพ เพื่อเก็บกักน้ำดิบเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการผลิตน้ำประปาส่งให้กับชุมชนที่อยู่อาศัยและพื้นที่ธุรกิจในจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต รองรับการขยายตัวของเมืองในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศกว่าปีละ 10 ล้านคน

นายสุวิชา ยังกล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนในโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากมองเห็นโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีและทำให้บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน

ด้านนางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKD กล่าวว่า บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 40% ในบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด โดยบริษัทใช้งบลงทุนในครั้งนี้ราว 600 ล้านบาท ซึ่งตามแผนในปีนี้จะสามารถจำหน่ายน้ำประปาในเชิงพาณิชย์ได้ประมาณ 24,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากกำลังการผลิตสูงสุด 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

"ตามประมาณการของโครงการในปีแรกบีเคดีคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจน้ำประปาประมาณ 40 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้นและหากเดินกำลังการผลิตสูงสุดที่ 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน บริษัทจะมีรายได้ปีละ 130 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 7 ปี"นางนุชนารถ กล่าว

นางนุชนารถ กล่าวต่อว่า การเข้าไปลงทุนในธุรกิจน้ำประปา เพราะบริษัทมองว่าธุรกิจสาธารณูปโภค เป็นธุรกิจที่เติบโตแบบยั่งยืน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะพื้นที่จำหน่ายน้ำประปาภายใต้สัญญาอยู่ในพื้นที่บางส่วนของจ.ภูเก็ต และจ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการใช้น้ำสูง เป็นแหล่งพักอาศัย แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งอุตสาหกรรม ปัจจุบันอยู่ในภาวะที่ขาดแคลนน้ำประปา

"บริษัทมองว่าธุรกิจสาธารณูปโภค เป็นธุรกิจที่เติบโตแบบยั่งยืน และบริษัทก็มีความเชื่อว่าน้ำมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนมากกว่าไฟฟ้าเสียอีก"นางนุชนารถ กล่าว

อนึ่ง โครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาส่งให้พื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ได้รับสัมปทานประกอบกิจการประปา จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ตำบลไม้ขาว และตำบลสาคู อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ตในนามบริษัท ไฮโดรเอ็นเตอร์ไพร์ส แอนด์ อะควอดีซายน์ จำกัด หรือ HYDRO (บริษัทลูกของบริษัทโกลด์ชอร์ส ถือหุ้น สัดส่วน 99.99%) รวมระยะเวลา 30 ปี โดยมีแหล่งน้ำดิบมาจากขุมเหมืองเก่า เนื้อที่ประมาณ 340 ไร่ ตั้งอยู่ที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ