(เพิ่มเติม) LHFG ตั้งเป้าสินเชื่อรวมปี 62 โต 6-8% พร้อมปรับพอร์ตลดการกระจุกตัว , AUM โต 10-20% ขยายฐานลูกค้า-รุกกลุ่มเวลท์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 13, 2019 14:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศศิธร พงศธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมในปี 62 เติบโต 6-8% โดยยังคงเติบโตอย่างระมัดระวังควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพสินเชื่อ โดยธนาคารจะให้ความสำคัญกับการปรับพอร์ตสินเชื่อให้มีความเหมาะสมเพื่อลดการกระจุกตัว และจะเน้นการเติบโตไปที่สินเชื่อที่มีหลักประกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก

สำหรับการปรับพอร์ตของธนาคารช่วง 2-3 ปีนี้ จะปรับให้พอร์ตสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายใหญ่ จะปรับสัดส่วนให้อยู่ในระดับที่เท่าๆกัน จากปัจจุบันที่สัดส่วนสินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายใหญ่อยู่ที่ 76% กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี 11% และกลุ่มลูกค้ารายย่อย 13% โดยการกระจายพอร์ตสินเชื่อของธนาคารในช่วงนี้จะต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก เนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก ทำให้ธนาคารต้องใช้ความระมัดระวังในการขยายพอร์ตสินเชื่อ ซึ่งในปีนี้ธนาคารจะเน้นการขยายในส่วนของสินเชื่อภาคธุรกิจที่มีขนาดกลางที่มียอดขายหรือรายได้เฉลี่ย 500 ล้านบาท/ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงไม่สูงมาก ขณะที่การควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 62 ธนาคารควบคุมให้ไม่เกิน 2% จากปีก่อนที่ 1.93% ส่วนการตั้งสำรองในปี 62 ธนาคารคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน โดยที่อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้สงสัยจะสูญ (Coverage ratio) จะอยู่ที่ราว 110% โดยที่ธนาคารยังคงพยายามติดตามทวงหนี้ได้อย่างประสิทธิภาพ เพื่อทำให้คุณภาพหนี้อยู่ในระดับที่ดี ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารนั้นมองว่ายังคงเป็นไปตามกลไกของตลาด และความเหมาะสมกับภาวะของตลาดในช่วงนั้นๆ แต่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆในอุตสาหกรรม ซึ่งธนาคารยังคงต้องบริหารจัดการต้นทุนต่างๆของธนาคารให้มีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในทุกปี

ด้านนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Fund) กล่าวว่า ตั้งเป้าขยายขนาดกองทุนภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ให้เติบโต 10-20% จากสิ้นปีก่อนที่ 6.61 หมื่นล้านบาท โดยจะให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่ค่อยมีใครเข้าถึงมากขึ้น โดยบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และพันธมิตรในการสร้างทางเลือกการลงทุนส่วนบุคคลและดึงดูด นักลงทุนรุ่นใหม่ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการภายใต้กลยุทธ์ Asset Allocation ที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีในปีที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ