(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นตามภูมิภาค เล็งขานรับปัจจัยบวกตปท./จับตาศาลรธน.รับหรือไม่รับคำร้องกกต.ยื่นยุบพรรค ทษช.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 14, 2019 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่เคลื่อนไหวในแดนบวกได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นกัน ขานรับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และยังมีโอกาสที่สหรัฐฯจะเลี่ยงการเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ รอบที่สองออกไปได้ อย่างไรก็ดีทั้งสองปัจจัยยังเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะจะต้องตามดูความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ รวมถึงจะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 มี.ค.ออกไปได้หรือไม่

ส่วนบ้านเราวันนี้ ให้จับตาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จะเสนอคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เสนอให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ต่อที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้วินิจฉัยหรือไม่

พร้อมให้แนวต้าน 1,665 จุด ส่วนแนวรับ 1,650-1,645 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,543.27 จุด เพิ่มขึ้น 117.51 จุด (+0.46%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,753.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด (+0.30%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,420.38 จุด เพิ่มขึ้น 5.76 จุด (+0.08%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 3.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 101.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 5.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.81 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ก.พ.62) 1,655.73 จุด เพิ่มขึ้น 13.24 จุด (+0.81%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,379.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ก.พ.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 ก.พ.62) ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ก.พ.62) ที่ 2.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.40 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 31.35-31.50 ตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
  • ครม.ไฟเขียว "ดีอี" เดินหน้าฟ้อง "ไทยคม-อินทัช" เรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท หลังตีความการใช้วงโคจรเท่ากับใช้ทรัพยากรของรัฐ ขีดเส้นยื่นข้อพิพาทในเดือน ส.ค. ด้านไทยคมยืนกรานเข้าระบบสัมปทาน พร้อมเข้าสู่กระบวนการต่อสู้ตามกฎหมาย
  • 3 ค่ายมือถือ บุกทำเนียบพบ "วิษณุ" ขอยืดชำระใบอนุญาตคลื่น 900 หวังตุนเงินประมูล 5จี ในปีนี้ "ฐากร" หวัง "ประยุทธ์" ออกคำสั่ง ม.44 ก่อนเลือกตั้ง ห่วงประมูลช้ากระทบเศรษฐกิจ-ลงทุนธุรกิจ ต่อเนื่อง ด้าน "ทรู-เอไอเอส" ขอยืดจ่ายไลเซ่นส์ กว่า 6 หมื่นล้านบาท
  • กกต. มีมติยุบพรรค ทษช. ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด กรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ เข้าข่ายกระทำการเป็นปฏิปักษ์ ผิด ม.92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ขณะที่สำนักงานศาล รธน. นัดพิจารณาคำร้องวันนี้ ด้าน ทษช.ดิ้นสู้ โวย กกต.ควรไต่สวนก่อนมีมติ โร่ขอดูสำนวนจากศาล รธน. อ้างไม่รู้ถูกกล่าวหา ด้วยเรื่องอะไร ยันเดินหน้าหาเสียงต่อจนกว่าจะมีข้อยุติ "บิ๊กตู่" ยันไม่เกี่ยว กกต.ชงยุบพรรค ทษช.
  • ก.พาณิชย์ย้ำเป้าส่งออกทั้งปีโต 8% เมินตัวเลขปีที่แล้วต่ำ ไม่หวั่นถูกกดดันการค้าจากสงครามการค้า นโยบายกีดกัน ยันวางแผนเร่งผลักดันต่อเนื่อง เดินหน้าทำงานเชิงรุกเจาะจีนรายมณฑล อินเดีย และละตินอเมริกา วอนแบงก์ชาติดูแลค่าบาทให้มีเสถียรภาพ ห่วงกระทบภาคเกษตร

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TOP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 86 บาท คาดงบ Q4/61 พลิกเป็นขาดทุนราว 3.6 พันล้านบาท เพราะ Stock loss และค่าการกลั่นทรุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว ขณะที่กำไรทั้งปี 2561 จะ -54% Y-Y เหลือ 1.14 หมื่นล้านบาท ก่อนจะเด้ง 24% Y-Y อยู่ที่ 1.41 หมื่นล้านบาท ในปี 2562 ส่วนมาตรการ IMO ที่มีผล 1 ม.ค.63 จะทำให้ส่วนต่างน้ำมันดีเซลค่อย ๆ ขยับขึ้น ถือเป็นบวกกับ TOP โดยตรง นอกจากนี้ ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากการฟื้นของราคาน้ำมัน และคาดปันผลเฉพาะ 2H61 ที่ 3-4%
  • JMT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 14.2 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/61 พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 141 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2%qoq และ 42%yoy ตามพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัว และการตามเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพ
  • EA (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 52.80 บาท มีมุมมองบวก แม้ผลกระทบต่อกำไรยังไม่มากในวันนี้ คาดการณ์เบื้องต้นของการให้บริการเรือขนส่งในแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีผลต่อกำไรในภาพรวม 1-2% แต่โครงการนี้เป็นการเปิดโอกาสในอนาคตต่อโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของบริษัทที่กำลังก่อสร้างอยู่ อย่างไรก็ดีระหว่างรอพัฒนาการจากโครงการ 3-4 โครงการของบริษัท ผลกำไรปกติรายไตรมาสยังคงขยายตัวแกร่ง 30-50% YoY

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ