ก.ล.ต.คาดกม.หลักทรัพย์ฯฉบับใหม่บังคับใช้ใน H1/62 เอื้อระดมทุนนอกตลาดฯ-เปิดมุมมองหลากหลายของบอร์ดตลท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 25, 2019 11:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholder) ทุกฝ่าย อาทิ กลุ่มบริษัทจดทะเบียน, กลุ่มนักลงทุน และกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน มีส่วนร่วมในการกระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยสามารถเสนอชื่อมาให้ ก.ล.ต.แต่งตั้งได้ เพื่อส่งเสริมให้คณะกรรมการมีคุณภาพมากขึ้น และมีมุมมองที่หลากหลาย โดยเฉพาะในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การทำงาน

ขณะเดียวกัน ในอนาคตตลาดหลักทรัพย์อาจไม่ได้มีบทบาทดำเนินงานแบบศูนย์กลาง (centralized body) เนื่องจาก พ.ร.บ.ฉบับใหม่ จะมีการแก้ไขให้เอื้อกับการทำธุรกรรมหรือการระดมทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ จากฉบับเดิมบังคับให้เกิดขึ้นเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตจะมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปเป็น "e-trading platform"

นอกจากนี้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่จะกำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) โดยให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน

ด้านนายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. คาดว่า พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับใหม่จะประกาศบังคับใช้ได้ภายในครึ่งแรกของปี 62 จากนั้นจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการสรรหาคณะกรรมการรูปแบบใหม่ภายในระยะเวลา 120 วัน

ทั้งนี้ หาก พ.ร.บ.ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ก็จะมีการคัดเลือกบุคคลเข้ามาเพื่อเป็นคณะกรรมการตลท.ตามข้อกำหนดใหม่ในสัดส่วน 4:6 (จากเดิม 5:5) หรือเป็นการสรรหาจากบริษัทหลักทรัพย์สมาชิก (โบรกเกอร์) จำนวน 4 ราย และมาจากการแต่งตั้งของ ก.ล.ต.อีก 6 ราย ซึ่งจะมาจากการเสนอชื่อโดยองค์กรหรือสถาบันที่มีบทบาทต่อตลาดทุนหรือ stakesholder ตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่ ก.ล.ต.กำหนด ซึ่งหากเสร็จสิ้นกระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการ ตลท.ชุดใหม่ครบทั้งองค์ประกอบแล้วก็จะส่งผลให้กรรมการชุดเดิมสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งทันที (set zero)

ทั้งนี้ คณะกรรมการตลท.ชุดใหม่จะมีระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 3 ปี (จากเดิม 2 ปี) โดยเมื่อดำรงตำแหน่งไปถึงระยะเวลา 1 ปีครึ่งก็จะต้องมีการจับสลากเพื่อพ้นจากตำแหน่งกรรมการจำนวน 5 ราย เพื่อให้ผู้ถูกเสนอชื่อรายอื่นเข้ามาดำรงตำแหน่งเวียนกันให้เกิดความโปร่งใส โดยกระบวนการสรรหากรรมการใหม่เข้ามาแทนจะเป็นไปตามที่กฎหมายระบุไว้เหมือนการสรรหาในรอบแรก

"การเสนอชื่อจากคณะกรรมการจาก stakeholder เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและสะท้อนว่าบอร์ดของตลาดเป็นคนที่มาจาก Public Interest Director เนื่องจากตลาดฯดูโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ จึงต้องมีคนที่มีมุมมองด้านประโยชน์ส่วนรวม"นายศักรินทร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ