นายศุภศิษฎ์ โภคินจารุรัศมิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมตะ คอร์ปอเรชั่น (META) คาดว่า ธุรกิจที่เป็นไฮไลท์ของบริษัทคือโรงไฟฟ้ามินบูจะมีความชัดเจนในไตรมาส 1/62 นี้อย่างแน่นอน โดยมั่นใจว่าปี 62 จะเป็นปีที่ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่น และขึ้นชื่อได้ว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการเข้าไปลงทุนและดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศญี่ปุ่นต่อไป
สำหรับผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปี 61 เติบโตกว่า 132 % โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 85.53 ล้านบาท จากรายได้ 1,349 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 105% หลังจากรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เฟสที่ 1 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ และจากการเป็นผู้รับเหมา EPC ให้กับโครงการโรงไฟฟ้ามินบู ทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากการขายอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,221.3 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกำไรที่เสริมเข้ามาจากการเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่นในกลางปีที่ผ่านมา ที่สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัท Turnaround ตามที่คาดการณ์ไว้
"ปี 61 ที่ผ่านมา เป็นปีที่สามารถทุบสถิติสร้างกำไรสูงสุดตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา สะท้อนให้เห็นถึงความคืบหน้าของโครงการมินบูที่จะแล้วเสร็จในเร็ววันนี้ เราในฐานะผู้พัฒนาและรับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้ามินบู เริ่มรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโครงการตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้ามินบูได้ดำเนินการก่อสร้างเฟสที่ 1 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ แล้วเสร็จไปกว่า 90% คาดจะส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสที่ 1 และต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 ปี"นายศุภศิษฎ์ กล่าว