"เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป"ตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้โตกว่า 10% จากการขยายสาขาต่อเนื่อง-เพิ่มฐานลูกค้า-รุกธุรกิจเดลิเวอรี่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 6, 2019 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพอล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ในเครือบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมเฉลี่ยทั้งเครือในปีนี้เติบโตกว่า 10% จากยอดขายรวมในปีก่อนที่ 4.4 หมื่นล้านบาท จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มฐานลูกค้าและการรุกด้าน Delivery ซึ่งเป็นการช่วยขยายยอดขายในประเทศให้เติบโตขึ้น โดยที่ยอดขายในประเทศปีก่อนอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ในระดับตัวเลขสองหลักได้ในปีนี้ จากการรุกบริการ Delivery และภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้น หลังมีความชัดเจนของการเลือกตั้ง และมีการลงทุนต่าง ๆ เข้าช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอยให้ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน

พร้อมทั้งบริษัทยังนำเสนอรูปแบบการทำการตลาดและโปรโมชั่นใหม่ๆที่จะเข้ามาดึงดูดลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยในโอกาสที่บริษัทได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่น 1112Delivery อย่างเป็นทางการในวันนี้ ได้จัดโปรโมชั่นซื้อ 1 ฟรี 1 พร้อมกัน 7 แบรนด์เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการขอบคุณที่ลูกค้าให้การสนับสนุนบริษัทอย่างดีเสมอมา

บริษัทเปิดตัวแอพพลิเคชั่น 1112Delivery เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มจาก 7 แบรนด์ในเครือไมเนอร์ฟู้ดฯ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง และผู้บริโภคในปัจจุบันที่เน้นการสั่งสะดวก และยังคงคุณภาพอาหารที่ได้มาตรฐานของแต่ละแบรนด์ โดยได้นำร่องให้บริการจัดส่งในกรุงเทพฯและปริมณฑลไปแล้วในวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา และจะทยอยให้บริการครอบคลุมทั่วทุกภาคภายในกลางปี 62 จากร้านอาหารในเครือกว่า 1,600 สาขา เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา และนครราชสีมา

โดยแอพพลิเคชั่น 1112Delivery จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้ออาหารกับแบรนด์อาหารในเครือของบริษัททั้ง 7 แบรนด์ได้เลยในครั้งเดียว ซึ่งช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าจัดส่งที่คิดค่าจัดส่งเพียง 50 บาท/ครั้ง และเป็นการกระตุ้นให้ยอดขายจากการบริการ Delivery ในประเทศปีนี้เติบโตได้ถึง 50% จากปีก่อนที่ 3 พันล้านบาท หรือมาอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท ตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้จากการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งในส่วนยอดขายจากการให้บริการ Delivery ส่วนใหญ่ยังคงมาจากแบรนด์ The Pizza Company ที่มีสัดส่วนมากที่สุด 30% ของยอดขายในปีก่อน ซึ่งเป็นบริการที่ลูกค้านิยมใช้ Delivery มากที่สุด

ส่วนเป้าหมายยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น 1112Delivery บริษัทตั้งเป้าในปี 62 จะมียอดดาวน์โหลดอยู่ที่ 1 ล้านแอคเคาน์ จากปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 2 ล้านแอดเคาน์ และในส่วนของแบรนด์ร้านอาหาร The Pizza Company และ Burger King ที่มีแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเองนั้น จะยังคงใช้แอพพลิเคชั่นร่วมกันแบบคู่ขนาน เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกมากขึ้น

ขณะเดียวกันบริการสั่งอาหารของทั้ง 7 แบรนด์ในครั้งเดียวนั้นบริษัทยังสามารถใช้บริการผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1112 ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางในการให้บริการลูกค้าให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และในด้านการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการนั้น บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 8-10% ของสาขาร้านอาหารในเครือทั้งหมดทั่วโลก 2,270 สาขา ใน 27 ประเทศ ภายในปี 62 ส่วนสาขาแบรนด์ร้านอาหารในเครือในประเทศปัจจุบันมี 1,500 สาขา ได้แก่ The Pizza Company จำนวน 395 สาขา Swensens จำนวน 289 สาขา Sizzler จำนวน 55 สาขา Dairy Queen จำนวน 501 สาขา Burger King จำนวน 103 สาขา The Coffe Club จำนวน 51 Thai Express จำนวน 14 สาขา และ BENIHANA จำนวน 3 สาขา

"ไมเนอร์ฯยังคงเดินหน้าพัฒนาการบริการต่างๆเพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า ทั้งในส่วนของร้านอาหาร ตลอดจนช่องทางดิจิทัล ทั้งเว็บ แอพพลิเคชั่น และโซเชียลมีเดียหลากหลายรูปแบบ เพื่อทำให้ลูกค้าเข้าถึงการบริการได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตาม Core Value ของเราทั้ง 3 คือ คุณภาพอาหาร คุณภาพบริการ และความสะดวกสบาย ที่เราทำมาตลอดในช่วง 30 ปี โดยการลงทุนในแอพพลิเคชั่น 1112Delivery เราได้เห็นเตรียมกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่เราเห็นแนวโน้มในปี 60 และ 61 ที่บริการ Delivery เป็นที่นิยมกันมากขึ้น และมีจำนวนใช้บริการเพิ่มขึ้น ในปีนี้เราจึง Launch แอพฯออกมาอย่างเป็นทางการ เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจบครบในแอพฯเดียว โดยการลงทุนพัฒนาแอพฯเฉลี่ยแต่ละแบรนด์ทั้ง 7 แบรนด์ใช้ 40 ล้านบาท/แบรนด์ ในการร่วมพัฒนาแอพพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา"นายพอล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ