ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,625.57 จุด ลดลง 10.31 จุด (-0.63%) มูลค่าการซื้อขาย 49,860.05 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,639.10 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,625.41 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 349 หลักทรัพย์ ลดลง 1,006 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 453 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ไม่สน FTSE ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยมีผลวันนี้ โดยต่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่จะยังคงอัตราดอกเบี้ย และอาจจะลดคาดการณ์จำนวนครั้งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิมคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งอาจจะมาเป็น 1 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง และเศรษฐกิจสหรัฐฯก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงาน และค้าปลีกที่ไม่ดี
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามความคืบหน้ากรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนขึ้นในสัปดาห์หน้าด้วย
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบ 1,620-1,650 จุด พร้อมให้จับตาโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งในประเทศ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,226.54 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,615.24 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,195.86 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,749.97 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,603.59 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 1.00 บาท