WHAUP วางงบ 5 ปี 1 หมื่นลบ.สยายปีกอาเซียน ปักหมุดแรกเวียดนามเล็งโดดซื้อกิจการน้ำประปา

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 26, 2019 10:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมีแผนการลงทุน 5 ปี (62-66) ได้วางงบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ขยายกิจการทั้ง Organic และ Inorganic โดยเฉพาะการซื้อกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขึ้นกับราคาและโอกาสที่เหมาะสม

ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าซื้อกิจการน้ำประปาในประเทศเวียดนาม ส่วนหนึ่งเป็นการขยายกิจการตามกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ที่เตรียมเปิดนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ โดยรัฐบาลเวียดนามมีแผนขายหุ้นในกิจการน้ำประปาให้เอกชนเข้ามาบริหาร คาดแผนซื้อกิจการดังกล่าวน่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนั้น บริษัทยังมองหาโอกาสธุรกิจด้านสาธารณูปโภคในเวียดนามด้านอื่นเพิ่มเติมด้วย

"เวียดนามกำลังเติบโตมาก และเชื่อว่าจะเติบโตแบบนี้ไปอีก 10-20 ปี เพราะประชากรกว่า 100 ล้านคนที่กำลังเข้าสู่วัยทำงาน ทำให้การบริโภคในประเทศเติบโตสูงต่อเนื่อง ปัจจุบันนโยบายทางการเวียดนามส่งเสริมลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค เช่น ธุรกิจน้ำประปาที่มีกิจการอยู่ทั่วประเทศ และทางการมีนโยบายเตรียมเปิดประมูลขายหุ้นออกมา บริษัทเตรียมเข้าไปพิจารณาในส่วนนี้ ซึ่งเป็นการให้บริการทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม แตกต่างกับโมเดลในไทย ถ้าหากเราเริ่มซื้อกิจการแล้ว น่าจะเห็นการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมในเวียดนามช่วง 1-2 ปีข้างหน้าได้อย่างแน่นอน"นายวิเศษ กล่าว

นายวิเศษ ยอมรับว่า แนวโน้มในอีก 5-10 ปีข้างหน้า บริษัทต้องการยกระดับขึ้นเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสาธารณูปโภคในอาเซียน นอกจากเวียดนามแล้ว ยังมองโอกาสลงทุนในเมียนมาเพิ่มเติม แต่อยู่ระหว่างพิจารณาความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยเฉพาะกฎระเบียบทางการที่ยังไม่มีเสถียรภาพ ดังนั้น จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนในระยะถัดไป

ส่วนภาพรวมผลประกอบการปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,708 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,252 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตจาก 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าที่เมื่อวันที่ 1 ม.ค.62 เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้า กัลฟ์ เอ็นแอลแอล 2 (GNLL2) เป็นโครงการโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนหุ้นทั้งหมด 540 เมกะวัตต์ และช่วงครึ่งปีแรกจะทยอยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับลูกค้าหลายราย และโรงไฟฟ้าขยะ ขนาดกำลังการผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 2.30 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ปลายปีนี้ ทำให้เชื่อว่าสิ้นปีมีโอกาสที่กำลังการผลิตตามสัดส่วนหุ้นจะสูงกว่าเป้าที่ 570 เมกะวัตต์

สำหรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP2018) บริษัทมีความพร้อมเข้าประมูลในส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บนทุ่นลอยน้ำ ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ หรือ Hydro-Floating Solar Hybrid รวมกำลังการผลิต 2,725 เมกะวัตต์ โดยอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากภาครัฐ ขณะที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญการติดตั้งและมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรรมของกลุ่ม WHA อยู่แล้ว นับเป็นโอกาสขยายพอร์ตธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศเพิ่มเติม

ขณะที่ธุรกิจน้ำประปาคาดว่าทั้งปีจะเติบโตได้ราว 2-3% จากปีก่อนที่มีปริมาณขายน้ำประปาและบำบัดน้ำเสียรวม 105 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้จะเป็นอัตราเติบโตไม่สูง แต่ถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ ที่ในช่วงเดือน เม.ย.62 โครงการดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด เอ็นจีดี4 เป็นโครงการที่ 2 และล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาโครงการดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด เอ็นจีดี3 ที่กำลังทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางระดมทุนเพื่อนำมาขยายการลงทุน โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือในตลาดทุน อาทิ การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ เนื่องจากสินทรัพย์บริษัทส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ แต่คงจะต้องพิจารณาผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยว่าจะสอดคล้องกับศักยภาพทำกำไรของสินทรัพย์บริษัทได้อย่างไร

https://youtu.be/XZPPPNhtQNQ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ