นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทางนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาคาดว่าการเจรจาการค้ากับจีนยังสามารถที่จะบรรลุข้อตกลงกันได้ในสัปดาห์นี้ ทำให้เป็น Sentiment บวกต่อตลาดในเอเชียเช้านี้ และดาวโจนส์ฟิวเจอร์เช้านี้ก็รีบาวด์ขึ้นด้วย อย่างไรก็ดียังต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนต่อไป
นอกจากนี้ ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/62 ด้วย และในวันนี้ (10 พ.ค.) ให้ติดตามกลุ่มมือถือจะยื่นขอสิทธิ์การผ่อนชำระค่าคลื่น 900 MHz หรือไม่ อย่างไร และกลุ่มทีวีดิจิทัลจะมีใครแจ้งการขอคืนช่องบ้าง รวมถึงรอดูการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,658 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,828.36 จุด ลดลง 138.97 จุด (-0.54%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,910.59 จุด ลดลง 32.73 จุด (-0.41%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,870.72 จุด ลดลง 8.70 จุด (-0.30%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 29.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 27.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 151.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 16.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.32 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.62 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.32 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 พ.ค.62) 1,646.80 จุด ลดลง 7.21 จุด (-0.44%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,200.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 พ.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 พ.ค.62) ปิดที่ 61.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 42 เซนต์ หรือ 0.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 พ.ค.62) ที่ 2.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.64/70 แข็งค่าจากวานนี้สอดคล้องภูมิภาค ตลาดรอความชัดเจนเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน
- เผยโฉม ครม.เศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ พปชร.ส่ง"อุตตม"นั่งรมว.คลัง "ณัฏฐพล"รมว.ดีอี "ปชป.ภท.'"เล็งพาณิชย์-คมนาคม-พลังงาน-เกษตร เหตุสอดคล้องภารกิจตามนโยบายหาเสียง-รักษาฐานคะแนนนิยม "อุตตม"ลั่นพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย ส่วน 11 พรรคเล็ก ยันร่วม พปชร.หนุน"ประยุทธ์"นายกฯ
- รัฐบาลเกาะติดการเจรจาการค้า หวั่น"สหรัฐ"ขึ้นภาษี "จีน" เป็น 25% ส่อกระทบเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ด้าน"คลัง" ประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม หาก "จีดีพี" โตต่ำ 3.8% ลั่นปัจจุบันยังมีงบดูแลเศรษฐกิจในปี 62 อีกกว่า 7.7 หมื่นล้าน รอให้รัฐบาลใหม่นำไปใช้กระตุ้น
- กสทช.เผย 2 ช่องทีวีดิจิทัลแจ้งยื่นคืนใบอนุญาต บีอีซีรอสรุป 10 พ.ค.คืนช่อง 3 เอสดี-แฟมิลี่ บอร์ด อสมท นัดถกคืนช่อง 14 รัฐบาลใหม่เหลือเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 8 หมื่นล้าน
- ชี้มาตรการหนุนบ้านต่ำล้านเป็นมาตรการที่ดี แต่อาจได้ผลน้อย เหตุผู้ซื้อมีหนี้เยอะ แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ พบปัจจุบัน มีบ้านต่ำล้านขายอยู่กว่า 2 หมื่นยูนิต เป็นคอนโดเกือบทั้งหมด
- "ธนารักษ์" ไฟเขียวขยายเวลาเช่าที่ราชพัสดุสำหรับ 6 สนามบินของ ทอท.ออกไปอีก 30 ปี หวังช่วยดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน คาดลงนามได้ใน 2 เดือนนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- BEM (ทรีนี้ตี้) "ซื้อ"เป้า 11.40 บาท แม้ว่าราคาหุ้นจะเข้าใกล้ราคาเป้าหมายมากแล้ว แต่บริษัทยังคงมี Catalyst สำคัญอย่างการเปิดรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย และข้อสรุปด้านการเจรจาต่อสัญญาทางด่วนที่จะเป็นผลดีต่อบริษัทในระยะยาว ทั้งนี้ BEM ประกาศผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/62 มีรายได้เติบโตตามคาดที่ 3.97 พันล้านบาท (+2.2% YoY, -0.3% QoQ) และมีกำไรสุทธิที่ 859 ล้านบาท (+17% YoY, +78% QoQ) แต่หากไม่นับรายการพิเศษ บริษัทจะมีกำไรปกติที่ 821 ล้านบาท (+17% YoY, +38% QoQ)
- TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 5 บาท กำไรดีกว่าคาด ทำได้ 33 ลบ.ใน Q1/62 +267% Q-Q, +106% Y-Y หากไม่รวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญใน Q4/61 กำไรปกติจะ +14% Q-Q จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มและค่าใช้จ่ายลด แนวโน้มกำไรจะดีต่อใน Q2/62 เพราะปีนี้อากาศร้อนกว่าปกติและมีโปรโมชั่น Hershey’s ซึ่งได้รับการตอบรับดี กำไร Q1/62 คิดเป็น 28% ของทั้งปีที่คาด 119 ลบ. +29% Y-Y
- ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 213 บาท กำไรสุทธิ Q1/62 ดีกว่าที่ตลาดคาด 7% โดยมีกำไร 7.6 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 11%qoq แต่ลดลงเล็กน้อย 5% วันนี้คาด ADVANC จะยื่นใช้สิทธิ์เพื่อยืดจ่ายค่าไลเซนส์คลื่น 900MHz เป็นบวกต่อผลกำไรและ Cash flow ในระยะถัดไปอาจหนุนให้ ADVANC เพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลมากขึ้น