โบรกฯเชียร์"ซื้อ"MINT มองผลงาน Q2/62 เติบโตเด่นรับไฮซีซั่นรร.ในกลุ่ม NH Hotel หนุน ,ธุรกิจอาหารฟื้นตัวช่วง H2/62

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 27, 2019 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) หลังมองผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 จะสามารถเติบโตได้โดดเด่นจากเป็นช่วง High season ของโรงแรมในกลุ่ม NH Hotel Group ในต่างประเทศ และเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของธุรกิจโรงแรมในไทยช่วงครึ่งหลังของปี 62 ประกอบกับแผนการขายและเช่ากลับสินทรัพย์ (Sale and leaseback) ของโรงแรมในเครือ Tivoli ทำให้มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษในปีนี้

ส่วนธุรกิจอาหารคาดว่าการอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยคาดว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่จากรัฐบาลมากขึ้น ขณะที่โมเมนตัมของธุรกิจอาหารในจีนยังเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากแผนการขยายสาขา

ช่วงบ่ายราคาหุ้น MINT อยู่ที่ 37.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.61%

          โบรกเกอร์                       คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย
          เคที ซีมิโก้                         ซื้อ                         39.50
          ฟินันเซีย ไซรัส                      ซื้อ                         48.00
          เคทีบี (ประเทศไทย)                 ซื้อ                         41.00
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ                   ซื้อ                         42.00

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 ของ MINT คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตก้าวกระโดดและโดดเด่นที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม เนื่องจากมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวคือกลุ่ม NH Hotel Group ในยุโรปที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วง High season และโรงแรมในไทยเริ่มเห็นรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) พลิกกลับมาบวก

ประกอบกับ มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากแผนการขายและเช่ากลับสินทรัพย์ของโรงแรมในเครือ Tivoli ในยุโรปบางแห่งซึ่งจะสามารถทำให้มีการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาราวไตรมาสที่ 2/62 หรือไตรมาสที่ 3/62 หากปิดดีลได้ทัน และจะนำเงินนำมาลดภาระหนี้สินบางส่วน

แม้ปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศอย่างเต็มที่ จากตัวเลขที่ประกาศในเดือน เม.ย. นักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียยังชะลอตัว แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 62 จะกลับมาเติบโตได้ดีขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมในไทย ส่วนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศคาดว่าจะยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจอาหารคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ทำให้การบริโภคในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น แม้ยังประเมินภาพรวมปีนี้ SSSG ในประเทศยังติดลบ แต่อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าธุรกิจโรงแรมจะยังเติบโตได้โดดเด่นมากกว่า

"เชื่อว่าไตรมาสที่เหลือของปี ผลประกอบการจะสามารถเติบโตได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทุกไตรมาส เนื่องจากปีนี้มีการรับรู้โรงแรมในกลุ่ม NH Hotel Group เข้ามา ซึ่งปีที่แล้วไม่มี" นายวีระวัฒน์ กล่าว

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเชิงบวกจาก RevPar ในเดือน เม.ย.-พ.ค.พลิกกลับมาเป็นบวกได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศที่ไม่รวม NH Hotel Group เพิ่มขึ้นได้เป็น double digit ขณะที่มองว่าจะมี upside เพิ่มเติมจากการขายโรงแรมในเครือ Tivoli บางส่วนออกมาในรูปแบบของการขายและเช่ากลับโดยคาดว่าจะมีกำไรพิเศษเข้ามาภายในปีนี้ ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ

ทั้งนี้ คาดว่าปี 62 จะมีกำไรสุทธิที่ระดับ 6.8 พันล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อน นับเป็นอัตราเติบโตสูงสุดในกลุ่ม และคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/62 จะทำจุดสูงสุดของปีนี้จาก NH Hotel Group เข้าสู่ช่วง Peak season และโตต่อในไตรมาสที่ 3/62 เพราะเป็น High season ของโปรตุเกส ส่วนไตรมาสที่ 4/62 เป็น High season ของไทย

ส่วนธุรกิจอาหารยังคงหดตัวลงเหมือนในไตรมาส 1/62 ที่ SSSG -4% แต่เริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้นจากประเทศจีนที่ SSSG ในไตรมาส 1/62 กลับมาเป็นเพิ่มขึ้นได้ที่ 2.5% ซึ่งคาดว่าจะเห็นโมเมนตัมการเติบโตได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยการเน้นการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในเมืองหลักอย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ดีช่วงครึ่งปีหลังจากเห็นความชัดเจนด้านการเมือง

ด้านบทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า จากที่ NH Hotel Group รายงานผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในไตรมาส 1/62 โดยบันทึกขาดทุนหลัก 15 ล้านยูโร ลดลงจากขาดทุน 21 ล้านยูโรในไตรมาส 1/61 เนื่องจาก RevPar เพิ่มขึ้น 4% จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในสเปนและยุโรปกลางและการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น

โดยคาดว่า MINT จะสร้างกำไรหลักเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 2/62 จะเป็น High season ของ NH Hotel Group คาดอัตราการเข้าพักที่ 75-80% และในไตรมาส 3/62 จะเติบโตจากฐานต่ำในไตรมาส 3/61 ซึ่ง MINT บันทึกเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการโดยไม่มีส่วนแบ่งกำไรของ NH Hotel Group ในไตรมาส 3/61

อย่างไรก็ดี ผู้บริหารเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวเนื่องจาก RevPar ของโรงแรมไทยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนในเดือนเม.ย.นอกจากนี้คาดว่าโรงแรมไทยจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังของปีนี้ เนื่องจากฐานที่ต่ำในช่วงครึ่งหลังของปี 61 จากอุบัติเหตุทางเรือที่ภูเก็ตในเดือน ก.ค.61


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ