AEC มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งกรอบ 1,600-1,640 จุด จับตาสงครามการค้าทวีความรุนแรง แม้มีปัจจัยบวกจาก MSCI

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 28, 2019 12:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เออีซี (AEC) ระบุว่าทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ระยะสั้นแกว่งในกรอบ 1,600-1,640 จุด จากทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยปัจจัยบวก ได้แก่ MSCI นำ NVDR เข้ามาคำนวณใน MSCI EM Index คาดจะส่งผลให้มี Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทย และมีแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายทั้งจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้สภาพคล่องในระบบการเงินยังคงดี ส่วนปัจจัยลบได้แก่ ปัญหาสงครามการค้าทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ปัจจัยต่างประเทศ การที่สหรัฐฯประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมของบริษัทหัวเว่ยชั่วคราวมีผล 90 วันจนถึงวันที่ 19 ส.ค. 62 ดังนั้น จึงควรจับตาการเจรจาการค้ากันอีกครั้งในการประชุม G20 ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 มิ.ย. 62 ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มิ.ย. 62 คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.25-2.5% บวกกับเริ่มเห็นสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก Implied Prob ช่วงอัตราดอกเบี้ย 2-2.25% หลังจากที่ทีการประกาศตัวเลข เศรษฐกิจที่ชะลอตัวในสัปดาห์ก่อน

อย่างไรก็ดี การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 25 มิ.ย. ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย คาดว่ากลุ่มโอเปก จะมีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงจนถึงสิ้นปี 2562 บวกกับสหรัฐฯ มีการคว่ำบาตรประเทศอิหร่านและเวเนซุเอลาซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ส่งผลต่อราคาน้ำมันได้

ทั้งนี้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไร ในกลุ่มที่น่าลงทุน ได้แก่ 1 กลุ่ม Defensive, 1 กลุ่ม Growth และ 1 กลุ่มราคาถูก เช่น กลุ่มหุ้นกระแสเงินสดแข็งแกร่ง ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้น โดยเลือกหุ้นที่มีความมั่นคงทางกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ได้แก่ กลุ่มพลังงานทางเลือก แนะนำ TPCH ,SSP กลุ่มสาธารณูปโภค เป็น OASIS ยามเมื่อตลาดหุ้นไทยผันผวน เลือก TTW , BAFS

รวมทั้งยังแนะนำ กลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คาดมีโอกาสเติบโตได้ดีจากอัตราการขยายตัวของพอร์ตลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการกู้ยืมเงินของกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ยังมีอยู่มากและได้รับผลบวกจากการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาควบคุมด้านกฏระเบียบอย่างเข้มงวดทำให้คาดจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในกลุ่มของผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบมากขึ้นแนะนำ SAWAD , MTC และกลุ่มธนาคาร มองหุ้นกลุ่มนี้ Cheap Valuation เนื่องจากราคาปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยแนะนำ KBANK และ KTB


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ