ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,621.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด (+0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 45,147.45 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,628.37 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,618.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 611 หลักทรัพย์ ลดลง 663 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 529 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบแดนบวก ซึ่งเป็นการรีบาวด์กลับมาจากเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง แต่ยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการปรับตัวขึ้นในวันนี้
ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่ชัดเจนของสวครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งยังคงต้องรอการเจรจากันอีกครั้งในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลกดดันให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับลงในวันนี้
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ได้มีข้อสรุปออกมาอย่างแน่ชัด ทำให้นักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจ แต่ยังมีรัฐบาลรักษาการในปัจจุบันที่มีอำนาจเต็มสามารถออกนโยบายมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่มองว่าหากมีความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลออกมาจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ดัชนีปรับตัวขึ้นไปได้ในระดับหนึ่ง
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวัพรุ่งนี้คาดว่าดัยชนียังคงแกว่งตัวแบบไซดเวย์ในกรอบแคบ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญทั้งปัจจัยภายนอกเรื่องสงครามการค้า และปัจจัยภายในของการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนียังไร้ทิศทาง และนักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งสอง ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
พร้อมให้แนวต้าน 1,632 จุด แนวรับ 1,618 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,988.75 ล้านบาท ปิดที่ 79.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,920.40 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,902.28 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,581.75 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,256.92 ล้านบาท ปิดที่ 450.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท