7UP กางแผนระยะสั้นหนุนพลิกมีกำไร Q2/62 หวังปลด "C" ภายใน Q3/62 พร้อมชูธุรกิจกำจัดขยะผลักดันผลงานระยะยาว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 4, 2019 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดประชุมชี้แจงต่อผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ถึงแผนธุรกิจของบริษัทในระยะสั้นและระยะยาว มีวัตถุประสงค์มุ่งแก้ไขให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทสูงกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เพื่อปลดเครื่องหมาย "C"

สำหรับแผนในระยะสั้น คาดว่าจะรับรู้ผลเชิงบวกจาก 4 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1. ธุรกิจโรงไฟฟ้า คาดว่าจะบันทึกกลับการตั้งด้อยค่าในส่วนของโรงไฟฟ้าวิทัยมูลค่า 50 ล้านบาทได้ในไตรมาส 2/2562 และคู่สัญญาได้เสนอให้โรงไฟฟ้าในภาคใต้ 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าวิทัย โดยมีราคาขายไฟสูงถึง 5.14 บาทต่อหน่วย

2. ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทย่อย บริษัท แซม วอเตอร์ ซัพพลาย จำกัด (SAM) ได้ส่งมอบงานปรับปรุงคุณภาพน้ำสำหรับฟาร์มกุ้งให้กับบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เฟสที่ 1 จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิต 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทุก 10,000 ลูกบาศก์เมตร จะคิดค่าบริการประมาณ 1 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 และจะส่งมอบงานเฟสที่ 2 จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิต 14,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ภายในไตรมาส 3/2562 ขณะที่เฟสที่ 3 จะเป็นโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำในระบบปิด(Green House) กำลังการผลิต 2 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2562 นี้

ทั้งนี้ ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำมีความต้องการและโอกาสเติบโตสูงในอนาคต จากความต้องการใช้น้ำของ CPF และผู้ประกอบการรายอื่น ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าธุรกิจดังกล่าวจะกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจหลัก สร้างรายได้สำคัญในอนาคต

3. ธุรกิจวิทยุสื่อสารโทรคมนาคม ผ่านการลงทุนในบริษัทย่อย บริษัท อินฟอร์เมติกซ์ พลัส จำกัด (IFP) ล่าสุดได้รับงานวางสายไฟเบอร์ออพติคมูลค่า 15 ล้านบาท และคาดว่าจะได้รับงานในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมูลค่าราว 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยเฟสแรกคาดว่ามีระยะทาง 146 กิโลเมตร

4. กลุ่มธุรกิจแก๊ส ด้วยจำนวนสถานีบริการแก๊ส LPG ที่มี 30 แห่ง ในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้กับบริษัท 400 ล้านบาท และมีกำไร 40 ล้านบาท คาดว่าในปี 2562 นี้ จะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท

"บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าด้วยผลของมาตรการระยะสั้นนี้จะส่งผลบวกให้ผลประกอบการของบริษัทพลิกเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2562 นี้ และคาดว่าภายในไตรมาส 3/2562 จะสามารถปลดเครื่องหมาย "C" ได้ ขณะเดียวกันบริษัทได้ศึกษาโครงการลงทุนในระยะยาวควบคู่ไปกับการดำเนินแผนระยะสั้น เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพให้กับบริษัท"นายสิทธิชัยก ล่าว

สำหรับแผนระยะยาวจะประกอบไปด้วย ธุรกิจกำจัดขยะ กำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ปัจจุบันได้รับใบอนุญาตจัดการกากอุตสาหกรรมประเภท 101 105 และ 106 และปี 2563 จะเริ่มก่อสร้างเตาเผาขยะ กำลังการผลิต 330 ตันต่อวัน และระดับกำลังการผลิตดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าจำนวน 9 เมกะวัตต์ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจกำจัดขยะจะเป็นอีกธุรกิจในอันที่จะสร้างรายได้หลัก เนื่องจากความตื่นตัวในการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการ และพบว่าค่าธรรมเนียมของการกำจัดขยะอุตสาหกรรมอยู่ในช่วง 3,500-12,000 บาทต่อตัน สูงกว่าขยะครัวเรือนหลายเท่าตัว

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจะเสนอตัวเป็นผู้กำจัดสารปนเปื้อนบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ภายในระยะเวลา 15-20 ปี โดยต้องดำเนินการภายใต้สนธิสัญญามินามาตะว่าด้วยการกำจัดสารปรอท ซึ่งจะต้องล้างสารปรอทรวมถึงสิ่งปนเปื้อนก่อนจะนำไปดำเนินการในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมถึงบริษัทยังมีความสนใจลงทุนร่วมกับบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด เพื่อรับสัมปทานธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อส่งน้ำประปาให้กับจังหวัดภูเภ็ต ขณะนี้รอความชัดเจนในเรื่องของแผนธุรกิจคาดจะได้ข้อสรุปในเดือนกรกฎาคม 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ