(เพิ่มเติม) ดัชนี SET ต้นภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด สวนทางตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 12, 2019 14:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีหุ้นไทยต้นภาคบ่ายร่วงลงกว่า 10 จุด สวนทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยนักลงทุนกังวลต่อการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น เพราะเกรงว่าเงินบาทแข็งค่าเร็วจะกระทบเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งตลาดฯ มองว่ามาตรการดังกล่าวอาจกดดันกระแส Fund Flow ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

เมื่อเวลา 14.35 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,728.71 จุด ลดลง 11.78 จุด (-0.67%)

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.46 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,729.96 จุด ลดลง 10.49 จุด (-0.60%)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด อ่อนกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนเกิดการ Panic ภายหลังจากที่ธปท.ปรับเกณฑ์ยอดคงค้างบัญชีเงินฝากสกุลบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non-resident : NR) ทั้ง Non-resident Baht Account for Securities (NRBS) และบัญชี Non-resident Baht Account (NRBA) ให้เข้มขึ้น

โดยปรับเกณฑ์ยอดคงค้าง ณ สิ้นวันของบัญชี NRBS และ NRBA ให้ลดลง จากเดิมกำหนดไว้ที่ 300 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาทต่อราย NR ต่อประเภทบัญชี โดยกำหนดให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.62 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ มองว่ามาตรการที่ออกมานี้ไม่ได้เป็นยาแรง เป็นแค่การป้องกันการเก็งกำไร และเพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่าผิดปกติ เพราะที่ผ่านมาเงินบาทได้แข็งค่าสุดเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาค แต่ที่จริงไทยมีเสถียรภาพดีกว่าคนอื่นด้วย ทำให้มีเงินไหลเข้ามา ซึ่งนักลงทุนต่างก็ไม่คิดว่าจะมีการออกมาตรการอะไร แต่พอธปท.มีมาตรการออกมา นักลงทุนก็เลยกลัวและขายหุ้นออกมาก่อน นอกจากนี้คนไทยขายหุ้นด้วยก็เพราะกลัวต่างชาติขาย และหลังจากที่ประกาศมาตรการออกมา เงินบาทก็อ่อนค่าลงทันที

อย่างไรก็ดี เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงก็มองเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นดี ๆ พร้อมให้แนวรับ 1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,748 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ