PSH รุกหนัก EEC เปิด 2 โครงการใหม่ในจ.ชลบุรี กระแสตอบรับดี 2 วันกวาดยอดขายกว่า 400 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 12, 2019 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ในกลุ่มบมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิด 2 โครงการใหม่ ในจังหวัดชลบุรี มูลค่าโครงการรวม 2,005 บาท บนพื้นที่ " พฤกษา อเวนิว หนองมน-ชลบุรี" เพียง 2 วัน สามารถทำยอดขายไปกว่า 400 ล้านบาท

หลังจากนี้วางแผนเดินหน้าพัฒนาโครงการในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้กระจายครอบคลุม ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ซึ่งในพื้นที่นี้เดิมมีโครงการที่เปิดขายอยู่ก่อน 8 โครงการ ในปีนี้จึงเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการ และมีแผนเปิดเพิ่มในปีหน้าอีก 2 โครงการ ที่จังหวัดระยอง ในรูปแบบของคอนเซปต์ "พฤกษา อเวนิว" เช่นเดียวกัน เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพทำเล และการเติบโตของที่อยู่อาศัยที่จะเกิดขึ้นในเขต EEC ซึ่งนับเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวและนิคมอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองมาก

ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ EEC มีมูลค่าตลาดใหญ่สูงเกือบ 16,821 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2566 ซึ่งจะเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา และเส้นทางเชื่อมต่อ 5 จังหวัด จึงจะทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นเมืองใหญ่รองจากกรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับ พฤกษา อเวนิว หนองมน-ชลบุรี ตั้งอยู่ห่างจากสถานีชลบุรี เพียง 7 นาที จึงเป็นทำเลศักยภาพที่จะสามารถเดินทาง เชื่อมต่อสู่กรุงเทพได้อย่างสะดวก ภายในพื้นที่ดังกล่าวบริษัทได้เปิด 2 โครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ "บ้านพฤกษา หนองมน-ชลบุรี (3)" ทาวน์โฮมหรู จำนวน 474 ยูนิต และ "เดอะแพลนท์ หนองมน-ชลบุรี" บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดหลังใหญ่

สำหรับกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดของพฤกษา คือ มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่อสังหาริมทรัพย์ ยกระดับการอยู่อาศัยในโซนต่างจังหวัด มุ่งพัฒนาโครงการกระจายให้ครอบคลุมในจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรม และแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก พัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ ในรูปแบบของ พฤกษา อเวนิว โดยมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม พร้อมยกระดับการอยู่อาศัยในต่างจังหวัด โดยพัฒนาสินค้า และการบริการ ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าโครงการในกรุงเทพฯ (Standardize) และพัฒนาสินค้า เป็นบ้านพร้อมอยู่เป็นหลัก (Ready to Move In)

นอกจากนี้จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในโครงการอย่างต่อเนือง ไม่ว่าจะเป็น Fresh air system "บ้านหายใจได้" ออกแบบระบบไหลเวียนอากาศภายในบ้าน, Home Automation, เสริมความแข็งแรงของพื้นที่หลังบ้านด้วยเสาเข็มขนาดยาวลึกเท่าตัวบ้าน เพื่อรองรับการใช้งานเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ของลูกค้า, ช่อง SKYLIGHT ฝ้าเพดานโปร่งแสงนำแสงสว่างเข้ามาสู่ตัวบ้านในเวลากลางวัน ที่ช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าได้ดีมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ