ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง หลังจากตลาดลดความหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่มากเท่าที่คาด รวมถึงกังวลการกลับมาขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ กดดันให้มีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้น AOT และกลุ่มสื่อสาร รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ กดดันต่อภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 15.04 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,724.80 จุด ลดลง 10.30 จุด (-0.59%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.16 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,725.08 จุด ลดลง 10.02 จุด (-0.58%)
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างก็ติดลบ ซึ่งตลาดบ้านเราถือว่าติดลบน้อยกว่าภูมิภาค หลังจากที่มีกระแสว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแค่ 0.25% จากเดิมที่ตลาดคาดหวังไว้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมปลายเดือนก.ค.นี้
ส่วนบ้านเราก็ได้รับแรงกดดันจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาขายสุทธิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และยังมีประเด็นการเมืองเกิดขึ้นจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา สำหรับการวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญไว้พิจารณา มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (15) หรือไม่ ทำให้ตลาดวิตกถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง
พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,725 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735-1,740 จุด