(เพิ่มเติม) "สยามเทคนิคคอนกรีต"ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 203.50 ล้านหุ้น เข้า SET ใช้ขยายธุรกิจเสาคอนกรีตอัดแรง-คืนเงินกู้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 14, 2019 10:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สยามเทคนิคคอนกรีต ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 203.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.07% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดวัสดุก่อสร้าง โดยมี บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สยามเทคนิคคอนกรีต ประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงภายใต้เครื่องหมายการค้า "STEC" ได้แก่ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงต่าง ๆ ให้แก่ภาครัฐบาลและเอกชน ตลอดจนการให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการตอกเสาเข็ม อีกทั้งบริษัทยังให้บริการรับเหมาก่อสร้างเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ หรืองานก่อสร้างที่บริษัทฯ มีผลงานและประสบการณ์ ได้แก่ งานติดตั้งระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และงานออกแบบ จัดหาพร้อมติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสง

ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงทั้งสิ้น 9 แห่ง กระจายอยู่ในหลายจังหวัด ได้แก่ สระบุรี ชลบุรี สุโขทัย ลำพูน บุรีรัมย์ ขอนแก่น อุบลราชธานี และนครราชสีมา รวมทั้งมีโรงงานเสาเข็มสปัน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่สระบุรี

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนจากการเสนอขาย IPO ครั้งนี้ เพื่อการขยายธุรกิจเสาคอนกรีตอัดแรง โดยมีโครงการต่าง ๆ ประกอบด้วย โครงการขยายกำลังการผลิตโรงงานดอนพุด ลงทุนราว 38 ล้านบาท เดินเครื่องผลิตในไตรมาส 3/63, โครงการขยายกำลังการผลิตโรงงานพระพุทธบาท ลงทุนราว 25 ล้านบาท เริ่มผลิตได้ในไตรมาส 2/63, โครงการก่อสร้างโรงงานใหม่ที่จังหวัดมุกดาหาร ลงทุนราว 44 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 63, โครงการซื้อรถขนส่งผลิตภัณฑ์คอนกรีตราว 18 ล้านบาทในไตรมาส 2/63, โครงการซื้อเครื่องกดกันสั่นสะเทือน 24 ล้านบาทในไตรมาส 3/63, โครงการลงทุนในเครื่องผสมคอนกรีต 12 ล้านบาท นอกจากนั้นจะใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ

ณ วันที่ 25 มิ.ย.62 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 725,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 725,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และมีทุนที่เรียกชำระแล้วจำนวน 521,500,000 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO แล้ว จะทำให้บริษัทมีทุนที่ออกและชำระแล้วเท่ากับ 725,000,000 บาท

ด้านโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท ร่วมชัยกิจ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 357,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 68.46% หลังการเสนอขาย IPO แล้วจะลดสัดส่วนลงเหลือ 49.24%, ครอบครัวมงคลศรีสวัสดิ์ ถือหุ้นรวมกัน 69,345,540 หุ้น หรือคิดเป็น 13.30% จะลดสัดส่วนหุ้นเหลือ 9.57%, ครอบครัววงค์ธนานันท์ ถือหุ้น 28,200,020 หุ้น คิดเป็น 5.41% จะลดสัดส่วนเหลือ 3.90% และครอบครัวอัคคไพบูลย์ ถือหุ้น 15,372,920 หุ้น คิดเป็น 2.95% จะลดสัดส่วนหุ้นเหลือ 2.13%

ผลประกอบการของบริษัทในช่วงปี 59-61 บริษัทมีรายได้รวม 980.51 ล้านบาทในปี 59 จากนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 1,159.12 ล้านบาทในปี 60 และเพิ่มเป็น 1,616.40 ล้านบาทในปี 61 ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 51.04 ล้านบาทในปี 59 เป็น 76.78 ล้านบาทในปี 60 และ 85.74 ล้านบาทในปี 61

ส่วนงวด 3 เดือนแรกของปี 62 บริษัทมีรายได้ 395.11 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 61 ที่มีรายได้ 327.96 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 15.73 ล้านบาทในงวด 3 เดือนแรกของปี 61 โดยอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 3.62% เป็น 8.20% ณ วันที่ 31 มี.ค.62 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,777.78 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,145.47 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 632.31 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ