ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,646.68 จุด เพิ่มขึ้น 13.12 จุด (+0.80%) มูลค่าการซื้อขาย 51,082.72 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,646.74 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,636.20 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 864 หลักทรัพย์ ลดลง 627 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 501 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปและดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส เป็นการลุ้นถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล คืนนี้ ซึ่งคาดหวังว่าจะพูดในเชิงบวก ทำให้ตลาดฯต่างรีบาวด์ขึ้น
นอกจากนี้ ในทางเทคนิคดัชนี SET50 สามารถทะลุ 1,084 จุดขึ้นไปได้ และดัชนี SET ก็สามารถทะลุ 1,643-1,644 จุด ขึ้นไปได้ ทำให้มีแรงซื้อตามเข้ามาในตลาดฯ โดยหุ้นที่ขึ้นนำตลาดฯก็เป็นหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มสื่อสาร ขณะที่หุ้น STEC และ KBANK ที่ปรับตัวลงก่อนหน้านี้ก็รีบาวด์ขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ภาพใหญ่เศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว เพียงแต่รอสัญญาณการผ่อนคลายเข้ามา และโดยปกติเดือนสิงหาคมหุ้นส่วนใหญ่มักจะย่อตัว เนื่องจากสัญญาณไม่มีแรงส่งมาก
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน และในการเทรดวันจันทร์นี้ (26 ส.ค.) ขึ้นกับถ้อยแถลงของประธานเฟด หากออกมาดีตลาดฯก็จะไปต่อ แต่ถ้าไม่ดีตลาดฯก็จะตั้งหลักใหม่ พร้อมให้แนวรับ 1,630-1,622 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650-1,670 จุด
สัปดาห์หน้าติดตามตัวเลข GDP งวดไตรมาส 2/62 ประกาศครั้งที่ 2 ของยุโรป และสหรัฐฯ ถ้าออกมาไม่ดีก็มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้น และต้องติดตามงานไทยแลนด์โฟกัส รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของการส่งออกและการลงทุน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,885.85 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,788.50 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,619.91 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
STEC มูลค่าการซื้อขาย 1,497.28 ล้านบาท ปิดที่ 19.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,358.34 ล้านบาท ปิดที่ 232.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท