(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-ซึมลงในกรอบแคบ เผชิญแรงถ่วงจากการเมืองในสหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 27, 2019 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในลักษณะซึมลงในกรอบแคบ เนื่องจากปัจจัยการเมืองในสหรัฐฯถ่วง หลังจากที่คณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เผยแพร่รายงานของผู้แจ้งเบาะแสรายหนึ่งที่ได้กล่าวโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรณีติดต่อรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้แทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

ส่วนบ้านเราวอลุ่มเทรดตลาดโดยรวมยังต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท/วัน แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังระมัดระวังการลงทุน อีกทั้งวันนี้จะต้องระวังตลาดผันผวน เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ตลาด TFEX จะมีการเปลี่ยนซีรี่ย์เพราะเป็นวันทำการซื้อขายวันสุดท้าย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้ติดตามตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,891.12 จุด ลดลง 79.59 จุด (-0.30%),
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,977.62 จุด ลดลง 7.25 จุด (-0.24%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,030.66 จุด ลดลง 46.72 จุด (-0.58%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.40 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 11.91 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 32.01 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 113.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 63.95 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.76 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ก.ย.62) 1,636.75 จุด เพิ่มขึ้น 8.37 จุด (+0.51%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 302.01 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2562
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ก.ย.62) ปิดที่ 56.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับ
ลง 8 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ก.ย.) อยู่ที่ 7.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.65 อ่อนค่าจากวานนี้หลังดอลล์แข็ง จับตาเจรจาการค้า-การเมืองสหรัฐฯ
  • "เอ็นซีพี" ลุ้นคำพิพากษาศาลปกครองวันนี้ ชี้ชะตาประมูลแหลมฉบังเฟส 3 เผยตุลาการ ผู้แถลงคดีระบุคำสั่งตัดสิทธิประมูลมิชอบ ให้เพิกถอนคำสั่ง "เอ็นซีพี" ด้าน กทท.เผยเปิดซอง 4 แล้ว อยู่ขั้นตอนเจรจา "กัลฟ์-ปตท." รอดูผลศาลก่อนเดินหน้า
  • "คมนาคม" ล้มแผนซื้อรถเมล์ 3,000 คัน สั่ง ขสมก.เลิกเดินรถเอง เปลี่ยนจ้างเอกชนวิ่งแทน ปรับบทบาทเป็นผู้กำกับสัญญา-ควบคุมคุณภาพ ผุดโมเดลตั๋ววัน 30 วัน เหมาขึ้นได้ไม่จำกัด ลดค่าครองชีพตามนโยบาย "ศักดิ์สยาม" เดินหน้ารื้อแผนฟื้นฟู ปฏิรูปเส้นทางใหม่ รวมถึงเออลีรีไทร์ "กระเป๋า" ส่วน "คนขับ" ให้เอกชนรับโอน
  • แบงก์กรุงเทพเผยชมรมบัตรเครดิต ส.ธนาคารไทย เตรียมเข้าพบแบงก์ชาติเพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า 0% ไม่ได้เร่งหนี้เสีย แต่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้ พร้อมลุย จับมือไลน์ออกบัตรเดบิตร่วมเพิ่มฐานลูกค้ายังเจเนอเรชั่น ตั้งเป้าปีแรก 1.5 ล้านบัตร
  • "คลัง" จ่อปรับจีดีพีปี 2562 ใหม่ หลังเศรษฐกิจโลกชะลอกระทบส่งออกหนัก 8 เดือนติดลบ 2.2% พ่วงใช้จ่าย-ลงทุนเอกชนดิ่ง "อุตตม" แทงกั๊กจีดีพีปีนี้โตถึง 3% "พาณิชย์" เตรียมนัดประชุมวอร์รูม
  • นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียประจำปี 62 ซึ่งเป็นคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย 45 ประเทศ ว่า ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวช้ากว่าที่เอดีบีเคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยปรับลดลงจาก 3.9% มาอยู่ที่ 3% แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวในเกณฑ์ดีแต่การส่งออกและการลงทุนที่มองว่าอ่อนแอกว่าคาด ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงกว่าที่คาด
  • "พิพัฒน์" เตรียมหารือนายกฯและคลังเสนอเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์มาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" เพิ่มจาก 10 ล้านราย หลังกระแสตอบรับล้นหลาม ด้าน สศค.เผย "ชิม ช้อป ใช้" 1 ล้านรายแรก ลงทะเบียนถูกต้องเพียง 807,321 ราย ชี้คนวัยทำงานลงทะเบียนมากสุดและเลือกใช้สิทธิ์ในภาคกลางสูงสุด 43%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GPSC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 73 บาท (ยังไม่รวม synergy จาก GLOW) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 30 ก.ย. ถึง 4 ต.ค.นี้ (1:0.8819 @56 บาท) ขณะเดียวกัน GPSC กำลังทำเทนเดอร์ GLOW ส่วนที่เหลือ 4.75% ในราคาหุ้นละ 90.8136 บาท 25 ก.ย. ถึง 28 พ.ย. เพื่อ delist ออกจากตลาดฯ ทั้งนี้ เงินจากการเพิ่มทุน 7.4 หมื่นล้านบาท จะนำไปคืนเงินกู้ระยะสั้น ลดภาระดอกเบี้ยจ่าย กำไร H2/62 จะดีขึ้นเพราะไม่มีรายจ่าย one time เหมือน 2Q62 และโรงไฟฟ้าน้ำลิก 1 และไซยะบุรีเริ่ม COD ส่วนโรงอื่น ๆ ทยอย COD ปีถัดไปเพื่อให้กำลังผลิตเพิ่มเป็น 5.03 พันเมกะวัตต์ในปี 2566 จากปัจจุบัน 4.77 พันเมกะวัตต์
  • AOT (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 75.25 บาท จะได้อนิสงส์โดยตรงจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศโต 7.4% ในเดือน ส.ค. ขณะนักท่องเที่ยวจีนสู่ระดับ 1 ล้านคน ทั้งนี้ AOT รอครม. ไฟเขียวแผนพัฒนาสนามบินดอนเมืองเฟส 3 วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท หากเห็นชอบพร้อมออกแบบ 1 ปี ก่อนประมูลก่อสร้าง เล็งเปิดบริการปี 66 รับผู้โดยสารพีกสุด 55 ล้านคนต่อปี และยังมี Upside อีกมาก จากการประมูล Duty Free ดอนเมืองเดือนหน้า : ปัจจุบันบ. คิง เพาเวอร์ เป็นผู้ได้รับสัมปทานพื้นที่จำหน่ายสินค้าปลอดอากรท่าอากาศยานดอนเมือง จ่ายผลตอบแทนให้ AOT จำนวน 756 ล้านบาทต่อปี อายุสัญญา 10 ปี ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2555-30 ก.ย.2565 ถือว่าต่ำอย่างมาก
  • BCH (กรุงศรี)"ซื้อ"เป้า 19 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากมองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้วและจะเริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ Q3/62 เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังมี Upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากประกันสังคมเพราะบริษัทไม่ได้ปรับขึ้นค่ารักษาจากส่วนนี้มานานแล้ว (ขึ้นครั้งสุดท้ายคือ ก.ค.ปี 2560)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ