ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 27.69 จุด กังวลศก.อ่อนแอกดดันงบฯบจ.-เทคนิคเสียฉุดดัชนีปิดต่ำสุดรอบ 9 เดือน/สัปดาห์หน้าจับตาปัจจัยตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 25, 2019 17:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,593.28 จุด ลดลง 27.69 จุด (-1.71%) มูลค่าการซื้อขาย 76,698.83 ล้านบาท ตลาดมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ฉุดให้ปิดตัวต่ำสุดรอบกว่า 9 เดือนนับจาก 1,588.38 จุดเมื่อ 21 ม.ค.62 นักวิเคราะห์เผยดัชนีหลุด low เดิมรอบนี้ที่ 1,605 จุด ทำให้มีการตัดขาดทุนทางเทคนิค ประกอบกับ วานนี้ KBANK เปิดเป้าธุรกิจปี 63 ทิศทางอ่อนแอตอกย้ำความกังวลเศรษฐกิจไทยและผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน ยังต้องจับตางบไตรมาส 3/62 ตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมถึงปัจจัยใหม่ทั้งประชุมเฟด ,สงครามการค้า และ Brexit มองแนวรับถัดไป 1,590 และ 1,580 ส่วนแนวต้าน 1,605 และ 1,620 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,593.28 จุด ลดลง 27.69 จุด (-1.71%) มูลค่าการซื้อขาย 76,698.83 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,622.66 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,592.66 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 382 หลักทรัพย์ ลดลง 1,441 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 271 หลักทรัพย์

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเผชิญแรงขาย Stop loss หลังจากดัชนีหลุดระดับ low เดิมของรอบนี้ที่บริเวณ 1,605 จุดลงมา ฉุดให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มไฟฟ้าที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดก่อนหน้านี้ออกมาด้วย ทำให้ตลาดเผชิญแรงขายค่อนข้างมากในช่วงบ่ายนี้

ขณะที่ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจที่มีทิศทางอ่อนแอ ซึ่งหลายฝ่ายมองเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 2.9% ขณะที่ธนชาต มองเติบโตเพียง 2.7% เท่านั้น อีกทั้งวานนี้ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยเป้าหมายธุรกิจปี 63 ที่อ่อนแอลง นับเป็นการตอกย้ำภาพเศรษฐกิจไม่ดีฉุดให้มีแรงขายทั้งกลุ่มแบงก์ รวมถึงกลุ่มรับเหมาที่ยังไม่ได้ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/62 ออกมาก็คาดว่าจะมีทิศทางอ่อนตัวลง ผนวกกับงานประมูลล่าช้าด้วย กดดันให้หุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ ทั้ง ITD , CK , STEC ร่วงลง 5-7% ในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจที่ซบเซาและจะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนนั้น ได้สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นที่ปรับลดลงมาพอสมควรแล้ว หลังจากนี้ต้องรอการทยอยประกาศผลประกอบไตรมาส 3/62 การกลุ่ม real sector ที่จะเริ่มออกในสัปดาห์หน้าว่าจะมีทิศทางอย่างไร และโบรกเกอร์จะทบทวนประมาณกำไรและราคาเป้าหมายอย่างไร แต่เบื้องต้นคาดว่าตลาดน่าจะไม่มี downside มากนักจากระดับปัจจุบัน

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายสัปดาห์หน้า ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมถึงความคืบหน้าพัฒนาการของสงครามการค้า โดยมองแนวรับบริเวณ 1,590 และ 1,580 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,605 และ 1,620 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

GPSC มูลค่าการซื้อขาย 7,710.13 ล้านบาท ปิดที่ 89.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,276.54 ล้านบาท ปิดที่ 78.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,973.47 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,603.06 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 4.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,524.74 ล้านบาท ปิดที่ 354.00 บาท ลดลง 11.00 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ