ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 4.62 จุด แม้เผชิญแรงขายระหว่างทาง ทิศทางยังขึ้นต่อรับศก.โลกฟื้น-สภาพคล่องสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 5, 2019 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 59,165.68 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นต่อ แม้ระหว่างวันเผชิญแรงขายทำกำไร แต่เมื่อดัชนียังไม่หลุดแนวรับ 1,617 จุดจึงบ่งชี้เป็นการขายทำกำไรตามปกติหลังดีดขึ้นแรงวานนี้ มองทิศทางตลาดฟื้นตัวตามตลาดหุ้นโลกขานรับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกดีขึ้น โดยเฉพาะหากสหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ อีกทั้งธนาคารกลางหลายแห่งมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงินหนุนสภาพคล่องสูง ช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นไทย ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ยังไม่แกร่ง คาด กนง.พรุ่งนี้ลดดอกเบี้ยเป็นบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และหนุนดัชนีขยับขึ้นต่อ ให้แนวรับ 1,617 จุด และแนวต้าน 1,630-1,640 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 59,165.68 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,629.77 จุด และต่ำสุดที่ 1,617.72 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 718 หลักทรัพย์ ลดลง 821 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 452 หลักทรัพย์

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อ แม้เผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทางหลังจากปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,625-1,630 จุด แต่การขายทำกำไรไม่ได้กดดัชนีลงไปต่ำกว่าแนวรับ 1,617 จุด แสดงถึงภาพการขายทำกำไรปกติหลังจากดีดตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ รวมถึงวันนี้ยังไม่มีปัจจัยลบเข้ามาสู่ตลาด ทำให้ภาพตลาดยังไม่เปลี่ยนแปลงจากภาพการฟื้นตัว

สำหรับทิศทางตลาดมองว่ายังเป็นขาขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะหากสหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันได้ อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายทั้งในสหรัฐและยุโรป ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ตัวเลขภาคการผลิตของจีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในช่วง 2-3 เดือนก่อน ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

แม้สภาพคล่องตลาดโลกจะอยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังไม่เห็นการเข้าซื้อสุทธิของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะเงินทุนไหลเข้าส่วนใหญ่เข้าไปในตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากเสถียรภาพทางการเงินของไทยดีมาก โดยเฉพาะการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงทำให้ภาพทางด้านตลาดตราสารหนี้ของไทยมีความแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทยที่ผลประกอบการของบจ.ยังไม่แข็งแกร่ง โดยนับตั้งแต่ต้นปีถูกปรับประมาณการลงราว 16% อย่างไรก็ตาม การที่สภาพคล่องในตลาดสูงก็จะช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ ยังให้น้ำหนักของการปรับขึ้นต่อหลังจากปรับฐานระหว่างวันในวันนี้ ขณะที่มองการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจะเป็นภาพบวกต่อตลาด เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนแรงกดดันที่จะมีผลต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของกลุ่มแบงก์นั้นเชื่อว่าจะไม่มากนัก เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว ทำให้ตลาดลดความกังวลลง ทำให้หุ้นกลุ่มแบงก์มีโอกาสที่จะฟื้นตัวแม้ว่า กนง.ลดดอกเบี้ยในรอบนี้ก็ตาม พร้อมมองแนวรับที่ระดับ 1,617 จุด และแนวต้านที่ 1,630-1,640 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,205.02 ล้านบาท ปิดที่ 79.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,487.16 ล้านบาท ปิดที่ 45.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,343.95 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,116.43 ล้านบาท ปิดที่ 79.25 บาท ลดลง 0.75 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,842.39 ล้านบาท ปิดที่ 175.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ