ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,623.99 จุด ลดลง 2.88 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 62,181.94 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,631.34 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,621.34 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 709 หลักทรัพย์ ลดลง 847 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 493 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน โดยช่วงเช้าหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้น แต่ก็มาย่อตัวลงในช่วงบ่ายหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.25% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามที่หลายคนคาดไว้จากมุมมองว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าคาด แต่เชื่อว่าจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายแล้ว ภาพจากนี้ก็ต้องไปดูว่าจะทำให้เศรษฐกิจกลับมาพื้นตัวได้มากน้อยเพียงใด
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างหลังจากปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนว่าจะสามารถลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้ตามที่คาดไว้ภายในเดือนนี้หรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องติดตามการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI หลังจากเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนและซาอุดีอาระเบีย ทำให้อาจปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลงก็ได้ และติดตามตัวเลขส่งออกกับดุลการค้าของจีนในสัปดาห์นี้ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในช่วงทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ทำให้ตลาดฯอาจจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปแรงแล้ว
พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,637 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,341.67 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,337.79 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,110.66 ล้านบาท ปิดที่ 78.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,067.74 ล้านบาท ปิดที่ 80.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,790.21 ล้านบาท ปิดที่ 229.00 บาท ลดลง 3.00 บาท