(เพิ่มเติม1) "แอพพลิแคด"เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 2.46 บาท เปิดจองซื้อ 15 และ 18-19 พ.ย. พร้อมเทรด 22 พ.ย.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 13, 2019 16:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แอพพลิแคด (APP) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.46 บาท จากมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 15 และ 18-19 พ.ย.นี้ และจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 22 พ.ย.62

APP เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น โดยจะเสนอขายต่อประชาชน 72 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.71% และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย 8 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.86% ในราคาเดียวกัน

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ APP เปิดเผยว่า ราคาเสนอขายหุ้น IPO หุ้นละ 2.46 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) 10.44 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่ไตรมาส 4/61 ถึงไตรมาส 3/62 ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจอย่างมาก

ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจกว่า 25 ปี และศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นด้านการออกแบบ 3 มิติ และให้บริการอย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งเป็นพันธมิตรกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกไม่ว่าจะเป็น ซอฟต์แวร์ Solidworks ซอฟต์แวร์ ArchiCAD เครื่องพิมพ์ 3มิติ Stratasys และเครื่องสแกน 3มิติ GOM

นอกจากนี้ บริษัทยังมีจุดเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ มีรายได้จากบริการ Subscription Service คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของรายได้รวม ซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Recurring Income) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกค้าที่ใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากในส่วนของยอดขายซอฟต์แวร์ที่เพิ่มขึ้น และลูกค้าเดิมที่ต่ออายุสัญญาบริการ Subscription ซึ่งปกติแล้วการที่ลูกค้าเลือกใช้ซอฟต์แวร์ใดแล้ว การเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์อื่นจะเป็นไปได้ยากมาก ส่งผลให้จำนวนสัญญา Subscription Service ที่บริษัทฯ ให้บริการในปี 59-งวด 9 เดือนแรกปี 2562 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 2,560 สัญญา เป็น 3,101 สัญญา คิดเป็นรายได้เพิ่มขึ้นจาก 156 ล้านเป็น 187 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณปีละ 10% จึงมั่นใจว่า APP จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ APP เป็นผู้จัดจำหน่ายโซลูชั่นสำหรับการออกแบบอย่างครบวงจร ทั้งซอฟต์แวร์สำหรับออกแบบอุตสาหกรรม (Mechanical Solution : MEC) และสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง (Architecture Engineering & Construction : AEC) รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการออกแบบ 3 มิติ (Hardware) ได้แก่ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) และเครื่องสแกน 3 มิติ ตลอดจนการให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

บริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ SolidWorks จาก Dassault Systems SolidWorks Corporation, ซอฟต์แวร์ ArchiCAD จาก Graphisoft SE, เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) Stratasys จาก Stratasys AP Limited และเครื่องสแกน 3 มิติ GOM จาก Gom GmbH. และเพื่อความครบวงจร กลุ่มบริษัทฯ ให้บริการฝึกอบรมการใช้งานซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และบริการผลิตชิ้นงานต้นแบบ (Prototype) ด้วยเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซียผ่าน PT. Indonesia AppliCAD

นายประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APP เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ร่วมกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่เดินสายนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) ใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ และ อ.หาดใหญ่ สงขลา และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ วันนี้ ได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอกระแสตอบรับจากนักลงทุนจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน

บริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจมานานกว่า 25 ปี และให้ความสำคัญอย่างมากในการสรรหาผลิตภัณฑ์ โดยจะเน้นซอฟต์แวร์และผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และล้วนแล้วแต่เป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการด้านการออกแบบของลูกค้าทั้งทางด้านอุตสาหกรรม และด้านสถาปัตยกรรมและก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร

นอกจากนี้ บริษัทยังมีฝ่ายวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่รับผิดชอบในการพัฒนาและนำเสนอโซลูชั่นด้านการออกแบบใหม่ๆ โดยต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดจำหน่ายทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและครบวงจร ซึ่งเป็นการสร้างความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบผู้ประกอบการรายอื่น สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นด้านการออกแบบ 3 มิติ และให้บริการอย่างครบวงจรไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทย แต่เป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน

"แผนการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและขยายตลาดได้มากขึ้น และจะสะท้อนถึงผลประกอบการที่จะเติบโตอย่างมั่นคงของ APP" นายประภาส กล่าว

สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (59-61) กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 540.39 ล้านบาท, 563.48 ล้านบาท และ 738.96 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะเดียวกันกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.23 ล้านบาท, 27.73 ล้านบาท และ 75.24 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 62 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 569.30 ล้านบาท กำไรขั้นต้นรวมจำนวน 263.98 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 46.89% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 49.59 ล้านบาท คิดเป็นอัตราอัตรากำไรสุทธิ 8.71%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ