โบรกฯเชียร์"ซื้อ"WHA ลุ้นผลงานปี 62-63 ทำนิวไฮ ยอดขายนิคมฯยังแกร่ง-กำไรขายสินทรัพย์เข้า REIT หนุน ,รับอานิสงส์ EEC

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 11, 2019 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) หลังมองว่าผลการดำเนินงานในปี 62-63 มีโอกาสทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากยอดโอนที่ดินต่อเนื่อง และการรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า REIT ด้านยอดขายนิคมฯยังคงทำได้ดีหนุนยอดขายรอโอน (Backlog) แข็งแกร่งช่วยผลักดันการโอนที่ดินในปีหน้าด้วย ขณะที่ยังมีลุ้นปิดดีลขายที่ดินและคลังสินค้าให้อาลีบาบาภายในกลางเดือน ม.ค.63 จะช่วยหนุน Upside เพิ่มขึ้น

ด้านราคาหุ้น WHA ร่วงลงแรงในช่วง 3 สัปดาหี์ที่ผ่านมา จนมาทำระดับต่ำสุดรอบ 1 ปีที่ 3.94 บาท/หุ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้เป็นโอกาสในการซื้อสะสมจาก Upside เปิดกว้าง ท่ามกลางศักยภาพการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจฐานะที่เป็นผู้ประกอบการด้านนิคมอุตสาหกรรมและระบบจัดส่งสินค้าครบวงจร ทำให้ได้รับอานิสงส์เต็มที่จากนโยบาย EEC รวมถึงการกระจายตัวของธุรกิจอย่างดีทำให้พอร์ตธุรกิจมีความสมดุลในท่ามกลางปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

พักเที่ยงราคาหุ้น WHA อยู่ที่ 4.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 1.49% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลง 0.17%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ              ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          โนมูระ พัฒนสิน                   ซื้อ                        5.70
          เคทีบี (ประเทศไทย)              ซื้อ                        5.60
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ                ซื้อ                        5.46
          เอเชีย เวลท์                    ซื้อ                        5.20
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ                ซื้อ                        5.38
          บัวหลวง                        ซื้อ                        5.05
          เคจีไอ (ประเทศไทย)             ซื้อ                        5.00

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า การลงทุนสำหรับหุ้น WHA ในเชิงพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 ยังคงได้รับผลบวกจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (REIT) และสัญญาการเช่าพื้นที่ใหม่จะเพิ่มขึ้นมากในไตรมาส 4/62 หลังในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้ทำได้เพียง 78,157 ตารางเมตร (ตร.ม.)

ด้านการขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ทำได้แล้ว 565 ไร่เฉพาะในไทย จากเป้ายอดขายปีนี้ที่ 1,600 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 1,400 ไร่ และต่างประเทศ คือ เวียดนามอีก 200 ไร่ ปัจจุบันการขายนิคมฯที่เวียดนามมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (LOI) 100 ไร่ แต่คาดว่าคงโอนได้ทันในปีนี้ ซึ่ง WHA มองว่าปัจจุบันมีลูกค้าหลายรายให้ความสนใจซื้อ และคาดว่าจะเห็นยอดขายปีนี้แล้วราว 1,200 ไร่ แต่ในกรณีที่เลื่อนขายไปปีหน้า ก็ถือว่าจะเป็นเวลาที่ไม่นาน โดยยอดขายนิคมฯที่จะเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยเสริม Backlog ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นได้อีก

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น WHA ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง ทำให้แม้ในเชิงพื้นฐานจะแนะนำ "ซื้อ" แต่ด้วยบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวยก็อาจจะต้องจับจังหวะลงทุน โดยรอดูภาวะตลาดประกอบกันไปด้วย

"ปัจจัยพื้นฐานของ WHA ไม่เปลี่ยนแปลง ไตรมาส 4 ก็มีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน เรื่องต่าง ๆ ยังเหมือนเดิม แต่ Sentiment ตลาดไม่ดี อาจต้องดูภาวะตลาดประกอบด้วย"นายสมบัติ กล่าว

ดีบีเอสฯ มองว่าสาเหตุที่ราคาหุ้น WHA ปรับลดลงก่อนหน้านี้อาจมาจากยอดขายนิคมฯในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ที่ทำได้เพียง 565 ไร่ จากเป้าขายปีนี้ 1,400 ไร่ในไทย , พื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้ามีสัญญาเช่าเพียงราว 78,000 ตร.ม. จากเป้าปีนี้ 200,000 ตร.ม. และดีล"อาลีบาบา"ที่ยังซื้อคลังสินค้าจาก WHA ไม่สำเร็จ ล่าช้าจาก 14 พ.ย.62 และเลื่อนกำหนดใหม่เป็นช่วงกลางเดือนม.ค.63 เพราะติดการขอจากฝ่ายนโยบายของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงอาจมีความกังวลว่าหากจีนกับสหรัฐเจรจาการค้ากันได้ ทำให้การย้ายฐานการผลิตของจีนมาไทยจะลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม สาเหตุหุ้นตกแรงยังไม่ชัดเจน แต่ปัจจัยพื้นฐานของ WHA ยังแข็งแกร่ง โดยได้ประโยขน์จากนโยบาย EEC จากภาครัฐ และการย้ายฐานการผลิตของจีนมาไทย จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ร่วมลงนามโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) แล้ว และหากมีการลงนามโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกก็จะเป็นสัญญาณดีของโครงการ EEC เพราะโครงการขนาดใหญ่จะต้องมีสาธารณูปโภคมารองรับ ขณะที่ WHA มีที่ดินนิคมฯ 10,000 ไร่ ในเขต EEC ที่ต้นทุนไม่สูงรองรับอยู่ ส่วนราคาขายก็จะทยอยปรับขึ้นได้ ล่าสุดจะเปิดนิคมฯใหม่ คือ WHA R36 ในปี 63 ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ผลักดันให้ WHA มีจุดเด่นที่ในปี 62-63 จะมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเติบโต 34% สำหรับปีนี้ และเติบโต 9% ในปีหน้า

ด้านบทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ปัจจุบัน WHA มีนิคมฯ 10 แห่งในไทย และอีก 1 แห่งในเวียดนาม ขณะที่ตั้งเป้าจะมีเพิ่มอีก 3 แห่งภายในปี 65 ส่งผลให้ WHA จัดอยู่ในสถานะที่ดีเพราะมีที่ดินเปล่าในมืออีกถึงประมาณ 11,000 ไร่ ทำให้สามารถตอบสนองต่ออุปสงค์จากการย้ายโรงงาน และนโยบาย EEC ถึงแม้ว่าเป้ายอดขายที่ดินรวมของ WHA ในปีนี้ที่ 1,600 ไร่ จะเป็นความท้าทายหลังจากที่ยอดขายงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ทำไปได้แค่ 565 ไร่เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าโมเมนตัมยอดขายที่ดินน่าจะเร่งตัวขึ้นในปี 63 ตามกระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่เพิ่มขึ้น และการที่มีแผนจะตั้งนิคมฯแห่งใหม่จะช่วยดึงดูดลูกค้า และเพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้า ทำให้คาดว่า WHA จะยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้ที่ประมาณ 40% ของตลาดอุตสาหกรรมโดยรวม โดยยังคงสมมติฐานยอดขายปี 63 ที่ 1,200 ไร่ และปี 64 ที่ 1,500 ไร่ในไทย และยอดขายในเวียดนามที่ปีละ 200 ไร่

ทั้งนี้ จากยอดโอนที่แข็งแกร่งของ WHA ระดับ 865 ไร่ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ทำให้เหลือ Backlog อีกประมาณ 350 ไร่ คาดว่าจะโอนได้ในไตรมาส 4/62 ประมาณ 60% ซึ่งจะทำให้ยอดโอนในปี 62 อยู่ที่ประมาณ 1,000 ไร่ แต่ Backlog ที่จะเหลือโอนในปีหน้าก็น่าจะลดลง ขณะที่ความล่าช้าการรับมอบที่ดินจากรัฐบาลเวียดนามจะทำให้ยอดโอนลดลงในปีหน้า

"WHA อยู่ในสถานะที่ดีในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมและระบบจัดส่งสินค้าครบวงจร ซึ่งจะทำให้ได้อานิสงส์เต็ม ๆ จากแนวโน้มอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกัน การที่ WHA มีการกระจายตัวของธุรกิจอย่างดีก็จะทำให้พอร์ตธุรกิจมีความสมดุลในท่ามกลางปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้"เคจีไอฯ ระบุ

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น WHA ที่ปรับลดลงก่อนหน้านี้นับว่าปรับตัวลงลึกเกินพื้นฐาน เพราะราคาหุ้นปรับลงกว่า 18% ในรอบ 3 เดือน จนแตะระดับต่ำสุดของปีนี้ โดยสาเหตุหลักน่าจะมาจากการขายที่ดินบางปะกง อีคอมเมิร์ชพาร์คเฟส 1 มีโอกาสเลื่อนออกไป และโครงการ EEC อาจยังมีหลายโครงการล่าช้ากว่ากำหนด

ด้านผลประกอบการของ WHA ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่แล้ว ตามยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้น 38% เป็น 1,300 ไร่ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่มากที่สุดในอุตสาหกรรม กำไรจากโรงไฟฟ้า Gheco I และโรงไฟฟ้า GNLL2 ยังคงแข็งแกร่ง และยังมีการขายคลังสินค้ามูลค่า 4.88 พันล้านบาท เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) จะช่วยหนุนกำไรไตรมาส 4/62 สูงสุดของปีนี้

ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรสุทธิของ WHA ในปี 63 และ 63 ที่ระดับ 3.4 พันล้านบาท และ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และ 18% ตามลำดับ โดยไม่รวมรายได้จากการขายที่ดินให้กับอาลีบาบา จำนวน 3.8 พันล้านบาท หรือคิดเป็น Upside ต่อกำไรสุทธิปี 62 และ 63 เพิ่มขึ้น 9% และ 8% ตามลำดับ

โดยอาลีบาบา ได้ใช้สิทธิ Option to buy ในวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ WHA สามารถรับรู้รายได้จากการขายเฟส 1 ประมาณ 3.6 พันล้านบาท ซึ่งจะบันทึกในไตรมาส 4/62 ถึงไตรมาส 1/63 (ภายในวันที่ 14 ม.ค.63 คิดเป็นระยะเวลา 60 วันหลังการใช้สิทธิ)

เคทีบีฯ มองว่าปัจจุบันราคาหุ้น WHA ไม่แพง เพราะเทรดที่ระดับ P/BV 2 เท่า เทียบกับอดีตเทรดระดับ 2.5-3 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ