(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ เล็งแรงหนุนจาก S&P ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือไทยเป็นเชิงบวก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 12, 2019 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ หลังจากที่ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาตามที่คาดไว้ โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ตลาดบ้านเรามีปัจจัจยหนุนจาก S&P Global Ratings ได้ปรับทบทวนแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยสู่ เชิงบวก จากเดิม มีเสถียรภาพ ซึ่งน่าจะหนุนตลาดได้บ้างแต่ก็คงไปได้ไม่ไกล

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย โดยยังต้องรอติดตามเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะมี Dateline ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ที่สหรัฐฯจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน ส่วนผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน และการเลือกตั้งอังกฤษ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เชื่อว่าการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก็ยังเดินหน้าต่อไป

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,546-1,563 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,911.30 จุด เพิ่มขึ้น 29.58 จุด (+0.11%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,141.63 จุด เพิ่มขึ้น 9.11 จุด (+0.29%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,654.05 จุด เพิ่มขึ้น 37.87 จุด (+0.44%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 57.42 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.92 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 192.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 66.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 14.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.09 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.36 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ธ.ค.62) 1,551.82 จุด ลดลง 1.14 จุด (-0.07%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,349.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ธ.ค.62) ปิดที่ระดับ 58.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 48 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ธ.ค.) อยู่ที่ 0.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.19/22 แข็งค่าตามแรงขายดอลลาร์หลังเฟดคงดอกเบี้ย มองกรอบ 30.15-30.25
  • "อุตตม" เผยรัฐวิสาหกิจเตรียมอัดงบลงทุนโค้งสุดท้ายปีนี้กว่า 1 แสนล้านบาท พยุงเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง มั่นใจไร้สัญญาณถดถอย ประเมิน "จีดีพี" ปีหน้าโตกว่า 3% พร้อมอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเพิ่มหากจำเป็น ด้าน "เอสแอนด์พี" ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยสู่เชิงบวก ครั้งแรกรอบ 9 ปี ขณะคลังแจกรางวัลกว่า 12 ล้านบาท หวังดันยอด"ชิมช้อปใช้"
  • บอร์ด รฟม.หั่นค่าโดยสารสายสีม่วง เหลือ 20 บาททั้งวัน เร่งชง "ศักดิ์สยาม" เสนอ ครม. ทดลอง 3 เดือน เผยใช้สายสีม่วงต่อน้ำเงิน สุดคุ้มเหลือ 48 บาท คาดสูญเดือนละ 15 ล้านบาท ดึงรายได้สัมปทานชดเชย พร้อมเล็งออกตั๋วเดือนสีน้ำเงินหลัง เปิดต่อขยายครบ ส่วนแทรมป์ภูเก็ต ให้ประเมินผู้โดยสารใหม่
  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนพ.ย.62 ว่า ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 มาอยู่ที่ระดับ 45.9 จากระดับ 46.0 ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยด้านลบเศรษฐกิจโลกยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆที่ชะลอตัวส่งผลให้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเห็นได้ชัดจากตัวเลขการส่งออกของไทยลดลงต่อเนื่อง
  • ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 เปิดเผยยอดขายรวมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในงานว่า มีจำนวน 44,740 คัน ลดลงจากปีก่อน 16.2% สาเหตุจากหลายปัจจัยทั้งภายนอกประเทศและปัจจัยภายในประเทศ เช่น การปรับขึ้นอัตราภาษีที่ดิน รวมถึงภาษีรถจักรยานยนต์อัตราใหม่คิดตามค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ม.ค.63 ส่งผลให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างระมัดระวังส่วนยอดผู้เข้าชมงานยังได้รับความสนใจจากประชาชนตามเป้าที่ตั้งไว้
  • ครม.ไฟเขียวยกเว้นค่าผ่านทางด่วน-มอเตอร์เวย์ช่วงปีใหม่ 27 ธ.ค.2562 - 3 ม.ค. 2563 คาดมีรถใช้บริการ 5.8 แสนคัน สูญเสียรายได้ 205 ล้านบาท แต่ช่วยให้ประชาชนสะดวกมากขึ้น ด้าน รฟม.ขยายแผนลดค่าครองชีพ หั่นราคาตั๋วรถไฟฟ้าสีม่วง 20 บาทตลอดสายไม่จำกัดเวลา นาน 3 เดือน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" เป้า 11.70 บาท ปริมาณรถบนทางด่วนเดือน พ.ย. -2% Y-Y เป็น 1.26 ล้านเที่ยว/วัน จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า +29% Y-Y แตะ 4.16 แสนเที่ยว/วัน ตามคาด ทำ All Time High หลังเปิดเดินรถสายสีน้ำเงินต่อขยายและค่าโดยสารเฉลี่ยปรับขึ้น 6% Y-Y เป็น 26.91 บาท/เที่ยวตามจำนวนสถานีที่เพิ่ม โดยยังต้องติดตามเรื่องการต่อสัมปทานทางด่วน ส่วน upside คือการประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) คาดขาย TOR ใน Q2/63
  • AOT, CPN (ฟินันเซีย ไซรัส) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นให้ AOT รื้อถอนสิ่งกีดขวางทางเข้า-ออก Central Village เป็นบวกต่อ CPN (ซื้อ, เป้า 86 บาท) ที่มีความชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ส่วน AOT (ซื้อ, เป้า 88 บาท) ไม่กระทบ
  • IVL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 45 บาท ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงผลประกอบการที่คาดหวังผลบวกจากการซื้อ Hunstman จะช่วยหนุนให้กำไรของ IVL สูงขึ้นตั้งแต่ Q1/63 (ดีล Hunstman จะเพิ่ม EBITDA ให้ IVL ประมาณ 20% ในปีหน้า)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ