(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดหุ้นทั่วโลก ขานรับตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐฯดีตามคาด/เกาะติดประชุมครม.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 4, 2020 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ในกรอบ โดยได้จากปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ติดลบ จากเงินเยนที่แข็งค่าซึ่งไม่ค่อยดีนัก และตลาดสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ปิดบวกด้วย หลังจากที่ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นในเดือนม.ค.ออกมาดีตามตลาดคาดไว้ ซึ่งรับผลจากการผ่อนคลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่ปัญหาอยู่ที่มาเจอไวรัสโคโรนา ตัวเลขภาคการผลิตอาจจะปรับตัวลงได้ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาที่ดูแล้วยังเร่งตัวขึ้น แต่ยังดีที่จำกัดอยู่แต่เฉพาะในจีน

นอกจากนี้ให้ติดตามการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธ เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย และติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ที่จะมีการออกมาตรการมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ขนาดไหน ซึ่งปัจจัยวันนี้ดูเป็นบวกมากกว่า

ทั้งนี้ กลุ่มโรงกลั่นเริ่มดีขึ้นหลังราคาน้ำมันปรับตัวลงเร็วทำให้สเปรดกว้างขึ้น ส่วนกลุ่มสื่อสารให้ติดตามดูว่า DTAC จะยื่นเข้าร่วมประมูล 5G หรือไม่หลังเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูง ซึ่งวันนี้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดรับคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 5G ส่วนพรุ่งนี้ก็ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

พร้อมให้แนวรับ 1,488-1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ก.พ.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,399.81 จุด เพิ่มขึ้น 143.78 จุด (+0.51%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,248.92 จุด เพิ่มขึ้น 23.40 จุด (+0.73%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,273.40 จุด เพิ่มขึ้น 122.47 จุด (+1.34%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 90.81 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 61.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 134.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 44.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 19.19 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 6.37 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 35.38 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ก.พ.63) 1,496.06 จุด ลดลง 18.08 จุด (-1.19%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 255.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ก.พ.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ก.พ.63) ปิดที่ระดับ 50.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ก.พ.) อยู่ที่ 1.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.99/31.02 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดรอผลประชุมกนง.พรุ่งนี้คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย มองกรอบ 30.90-31.05
  • คลัง ชงมาตรการชุดพยุงเศรษฐกิจ ลดผลกระทบไวรัสโคโรนา เข้าครม.วันนี้ ดันซอฟท์โลน แสนล้านอุ้มท่องเที่ยว ชงลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเฉพาะ เส้นทางในประเทศเหลือ 0.20 บาท/ลิตร นาน 7 เดือน "พิพัฒน์" ชี้ท่องเที่ยวครึ่งปีสูญ 3 แสนล้านบาท ด้านธุรกิจภูเก็ตขอซอฟท์โลน 2 หมื่นล้านบาท ไอเอ็มเอฟ เตือนไวรัสลามเศรษฐกิจโลก
  • จับตายื่นซองประมูลคลื่น 5จี วันนี้ คาดค่ายมือถือตบเท้ายื่นเอกสารเข้าประมูลครบทุกราย หลังได้ไฟเขียวจากบอร์ดบริหาร เชื่อคลื่น 2600 เนื้อหอมเอกชนแย่งเคาะแน่ "ฐากร" มั่นใจข้อสรุปเยียวยาคลื่น 2600 จบก่อนประมูล ลุ้น "ดีแทค" เปิดตัว "ชารัด" ซีอีโอใหม่ ฟาก กสทช. มั่นใจคลื่นขายออก 25 ไลเซ่นส์ จากที่เปิดประมูล 56 ไลเซ่นส์ แถลงผลตรวจคุณสมบัติ 11 ก.พ.นี้ เชื่อประมูลทำเม็ดเงินสะพัด 1.7 แสนล้านบาท
  • สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของประเทศที่นับวันสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562 หนี้ครัวเรือนทะลุ 13.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 79.3% ของจีดีพี และ หนี้ครัวเรือนยังมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะหากดูภาระหนี้ต่อเดือนของครัวเรือน ไทยพบว่า 40% เป็นหนี้ส่วนบุคคลเพื่ออุปโภคบริโภค มีระยะเวลาผ่อนสั้น ดอกเบี้ยแพง ส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด โดยภาระค่าใช้จ่ายที่มีค่อนข้างสูง อาจนำไปสู่ความเปราะบางเพิ่มขึ้น จากการชำระหนี้คืนในอนาคต
  • นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยถึงโครงการ"ชิม ช้อป ใช้" ระยะ 1-3 ที่เพิ่งจบไปเมื่อ 31 ม.ค. 63 ว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาจัดทำโครงการ"ชิม ช้อป ใช้" ระยะ 4 อยู่ โดยหากออกมาจะเริ่มใช้ได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้เศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นแต่การค้าของโลกก็ยังไม่แน่นอน อีกทั้งมีปัจจัยเสี่ยงใหม่ จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและความล่าช้างบประมาณปี 63 จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลที่จะต้องพิจารณามาตรการออกมาเพิ่มโดย"ชิม ช้อป ใช้" เฟส 4 อยู่ในแนวทางพิจารณาที่เหมาะสมอยู่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 257 บาท คาดตลาดจะตอบรับเชิงบวกจากข่าวที่มีภาคเอกชนเพียง 5 รายเข้ารับซองเพื่อประมูล 5G (เดิมตลาดกังวลจะมีภาคเอกชนรายใหม่ร่วมเข้าประมูลนอกเหนือจาก 5 รายนี้) ขณะเดียวกันมองว่าราคาหุ้นของ ADVANC ที่ลดลงกว่า 9% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนปัจจัยลบจากข่าวอนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ ADVANC จ่ายค่าเสียหายให้ TOT มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาทไปแล้ว
  • CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 39 บาท ความวิตกของตลาดว่าหากรายได้ในจีนที่ 24% ของรายได้รวม (ส่วนใหญ่เป็นรายได้อาหารสัตว์) และกำไรราว 2.5 พันล้านบาทต่อปี หายไปทั้งปี โดยประเมินกระทบราคาเป้าหมาย 5 บาท และถ้า CPALL เพิ่มทุนเพื่อซื้อ Tesco อาจทำให้ CPF ต้องกู้เงินเพื่อมาเพิ่มทุน (CPF ถือหุ้น CPALL 34%) จะทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มและอาจกระทบเป้าอีก 3 บาท รวมสองประเด็นเป็นลบต่อราคาเป้าหมาย 8 บาท จากเป้าปัจจุบันที่ 39 บาท เหลือ 31 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเสมือนไม่มีธุรกิจในจีนแล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ