ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,519.38 จุด เพิ่มขึ้น 23.32 จุด (+1.56%) มูลค่าการซื้อขาย 58,698.59 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,520.10 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,499.21 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,085 หลักทรัพย์ ลดลง 565 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 384 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ขึ้นหลังปรับตัวลงไปพอควร เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างก็ฟื้นตัวขึ้น เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็บวกได้กว่า 1% เหมือนกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ยืนในแดนบวก
โดยตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ Sentiment เป็นบวก และราคาหุ้นที่ปรับตัวลงไปมากก่อนหน้านี้ก็เด้งขึ้นมาได้ ทำให้ตลาดบ้านเรารีบาวด์ได้ค่อนข้างดี รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวขึ้น โดยนับจากช่วงที่เกิดสถานการณ์ไวรัสโคโรนาทำให้หุ้นไทยร่วงไปราว 4% ซึ่งคาดการณ์ว่าหลังไตรมาส 1/63 ไปแล้วสถานการณ์ไวรัสโคโรนาก็น่จะค่อย ๆ ดีขึ้นได้ จากที่ตอนนี้อยู่ในช่วงของการแพร่กระจาย แต่อัตราการเสียชีวิตไม่ได้รุนแรงมากเท่าใด
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการจ่ายปันผลด้วย และวันที่ 25-27 ก.พ.นี้ก็ให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโมเมนตัมที่จะปรับขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับและจุดฟิวเตอร์ไว้ที่ 1,500 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,530 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,029.55 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,957.78 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,524.47 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,291.27 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,125.38 ล้านบาท ปิดที่ 364.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท