ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,537.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.80 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 33,684.64 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,541.81 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,532.50 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังมีแนวโน้มควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา แม้ปัจจุบันยังมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีการวางแนวทางการวิจัยและพัฒนายา และวัคซีนต้านเชื้อไวรัสขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประกอบกับยังเป็นช่วงของการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/62 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในผลประกอบการฯ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยนักลงทุนมีการหมุนไปเล่นหุ้นในกลุ่มอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าเงินบาท และไวรัสโคโรนา อย่าง กลุ่มพลังงาน และโรงกลั่น พร้อมมองสัญญาณบวกหลังจีนจะไม่ปรับขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้ามาจากสหรัฐ ทำให้ส่งผลดีต่อสินค้าโภคภัณฑ์ โดยให้แนวรับ 1,527 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,548 จุด อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการในไตรมาส 1/63 เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับประมาณการลง จากปัญหาภัยแล้ง และไวรัสโคโรนา
อนึ่ง คณะกรรมาธิการด้านภาษีศุลกากรของสภาแห่งรัฐจีน แถลงในวันนี้ว่า จีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐเพิ่มอีก 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,839.67 ล้านบาท ปิดที่ 77.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,335.26 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,688.03 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท ลดลง 4.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 1,246.87 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 0 50. บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,213.19 ล้านบาท ปิดที่ 44.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท