(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนตัว แต่อาจผันผวนน้อยลง เกาะติดคดียุบพรรคอนาคตใหม่, กังวลศก.ไทย-งบบจ.อ่อนแอยังกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 21, 2020 09:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ภาพรวมยังคงอ่อนตัวลง หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงติดต่อกันหลายวัน โดยนักลงทุนยังกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลประกอบการของ บจ.ขนาดใหญ่ในไตรมาส 4/62 ที่ไม่โดดเด่น ขณะที่ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่จะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของดัชนีคาดว่าจะผันผวนน้อยลงจาก 2-3 วันก่อน หลังทางเทคนิคดัชนีเข้าสู่เขต Oversold และเม็ดเงินก็มีการหมุนกลุ่มเล่น หลังเมื่อวานนี้มีแรงขายออกมาในกลุ่มแบงก์ ขนส่ง แต่มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มน้ำมันเข้ามา ขณะที่ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูงอยู่ในวันนี้ก็อาจจะช่วยประคองดัชนีได้บ้าง รวมถึงขั้นตอนของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะก็ช่วยให้มีเบิกจ่ายงบประมาณได้ในระยะต่อไป ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ยังเคลื่อนไหวผันผวนบวกลบคละกัน

พร้อมให้แนวรับที่ 1,484 และ 1,475 จุด และแนวต้าน 1,500-1,505 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ก.พ.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 29,219.98 จุด ลดลง 128.05 จุด (-0.44%) ขณะดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,373.23 จุด ลดลง 12.92 จุด (-0.38%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,750.96 จุด ลดลง 66.21 จุด (-0.67%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 51.38 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 158.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 3.93 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 29.85 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิด ลดลง 9.49 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.97 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 17.57 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ก.พ.63) 1,491.24 จุด ลดลง 14.30 จุด (-0.95%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,376.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ก.พ.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ก.พ.63) ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ก.พ.) อยู่ที่ 3.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.48 ก่อนอ่อนค่ามาที่ 31.57 ยังกังวลสถานการณ์โควิด-19-ติดตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีพรรคอนาคตใหม่บ่ายนี้
  • "อุตตม"พบ"นักวิเคราะห์"หวังช่วยฟื้นความเชื่อมั่นลงทุน ย้ำพร้อมออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจต่อเนื่อง ระบุ"ระยะสั้น" เตรียมเร่งออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว พร้อมเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจ ชี้หลังปลดล็อกงบปี 63 มีเม็ดเงินลงทุนใหม่ฉีดเข้าระบบทันที 3.5 แสนล้านบาท ประเมินเบิกจ่ายรวมปีนี้ได้ 80% โดยไตรมาส 3 จะเบิกจ่ายงบลงทุนได้กว่า 6 แสนล้านบาท
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เสนอคลังเข็นมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนใหญ่-จัดทำงบประมาณปี 64 เน้นขาดดุลมากขึ้น หวังฟื้นเศรษฐกิจ เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน พร้อมชงรัฐเร่งกู้เงินมาลงทุน หลังดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลต่ำ
  • ส.อ.ท.เผยส่งออกรถยนต์ ม.ค.63 ลดลง 19.96% ต่ำสุดในรอบ 7 ปี ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอ ชี้จีเอ็มเลิกขายรถในไทยเป็นกลยุทธ์การตลาด ไม่กระทบกับภาพรวม ส.อ.ท.เผยการเร่งผลิตสินค้าและเทศกาลตรุษจีนหนุนดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 92.2 จากระดับ 91.7 ในเดือน ธ.ค.62 แต่ค่าดัชนีฯ ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการยังอยู่ในระดับที่ไม่ดี
  • กรมทางหลวงเร่งสร้างมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทางหลัก นครปฐม-ชะอำ, บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว, ต่อขยายโทลล์เวย์ช่วงรังสิต-บางปะอิน มูลค่า 1.39 แสนล้านบาท คาดลงนามเซ็นสัญญาได้ในปี 64
  • นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย หารือธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสมาชิกสมาคมถึงความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ซึ่งทำให้กระทบต่อธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว รวมทั้งแนวทางช่วยเหลือลูกจ้างของผู้ประกอบการ โดยแต่ละธนาคารได้มีแนวทางช่วยเหลือเดิมอย่างเพียงพอแล้ว แต่สมาคมฯต้องหารือ ธปท. พิจารณาผ่อนปรนกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เป็นข้อติดขัด ซึ่งรวมถึงการตั้งสำรองหนี้ของลูกหนี้ที่ได้ให้ความช่วยเหลือจากผลกระทบดังกล่าวด้วย
  • ผู้อำนวยการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) คนใหม่รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เร่งหาทางยกระดับกองทุนหมู่บ้าน โดยเร็วๆ นี้ สทบ.จะจัดทำแนวทางการจัดสรรเงินเพิ่มเติมให้กับกองทุนหมู่บ้านกว่า 7.9 หมื่นแห่ง แห่งละ 1 ล้านบาท เสนอให้กับคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาโดยเร็ว เพื่อช่วยให้แต่ละกองทุนมีเงินไปบริหารจัดการได้
  • กกพ.ลุ้นตรึงค่าไฟฟ้าตลอดปี 63 เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน หลังยังมีวงเงินส่วนได้จาก 3 การไฟฟ้าเหลืออยู่ 1,000 ล้านบาท ที่จะนำมาดูแลค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ ซึ่งทั้งหมดต้องพิจารณาจากต้นทุนเชื้อเพลิงและสถานการณ์ต่างๆด้วย
  • ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวันนี้"ยุบ-ไม่ยุบ" พรรคอนาคตใหม่ เปิดข้อโต้แย้ง กกต.ปมยุบพรรค ยันกฎหมายไม่เปิดช่อง-แม้ที่มาถูกต้องแต่ขัด พ.ร.ป.พรรคการเมือง ด้านพรรคอนาคตใหม่ โต้กลับยันพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลกู้เงินได้ "ธนาธร" ปลุกแนวร่วมรวมตัว ยันย้อนเวลากลับได้จะทำเหมือนเดิม ขณะที่ศาลสั่งคุมเข้มอ่านคำวินิจฉัย

*หุ้นเด่นวันนี้

-HYDRO-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ไฮโดรเท็ค (HYDRO) เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มีจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ 98,116,121 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หุ้น อายุ 2 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามมัญใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 1 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรก 2 มี.ค.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 10 ก.พ.65

  • PTT (กสิกรไทย) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 49.50 บาท หลังมองกำไรไตรมาส 4/62 สอดคล้องคาดการณ์ แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 6% พร้อมคาดกำไรไตรมาส 1/63 ลดลงเล็กน้อยจากขาดทุนสต็อกน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนครึ่งหลังปีนี้ผลงานมีแนวโน้มแข็งแกร่งจากราคาก๊าซลดลง ขณะที่ GRM และส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ระยะสั้นยังมีปัจจัยจากการนำหุ้น OR เข้าตลาดเป็นปัจจัยสำคัญด้วย ทั้งนี้ PTT ประกาศจ่ายปันผลอย่างไม่คาดคิด 1.2 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 62 คิดเป็น payout ratio 61% DY 4.5% ขึ้น XD วันที่ 4 มี.ค. 63
  • BAM (เคจีไอ) แนะ"ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 33 บาท รับอานิสงส์เศรษฐกิจชะลอตัว มีโอกาสเพิ่มพอร์ต NPL และ แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ทำให้ต้นทุนลด ขณะที่คาด Dividend yield +5% ต่อปี สำหรับผลการดำเนินงานปี 2563
  • TU (กรุงศรี) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท ได้ Sentiment บวกค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ US dollar และ Euro คาด TU ได้ประโยชน์มากสุดเพราะมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกมากที่สุดของกลุ่มคิดเป็น 75% ของรายได้รวม แนวโน้มกำไรสุทธิ Q1/63 โตต่อเนื่องจากมาร์จิ้นและปริมาณขายเพิ่มขึ้น หลังจากราคาทูน่ากลับมาเร่งตัวขึ้นจาก 900 เหรียญสหรัฐ/ตันในช่วง 3Q62 เป็น 1,300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในปัจจุบัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ