GLOBLEX มองหุ้นไทยช่วงนี้แกว่งในกรอบ 1,310-1,380 จุด ทิศทางขาลง ไวรัสระบาด-"แฟลชม็อบ"ยังกดดันตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 3, 2020 15:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฝ่ายวิจัยบล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินตลาดหุ้นไทยช่วงนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,310-1,380 จุด ทิศทางยังอยู่ในขาลง โดยประเด็นกดดันหลักยังอยู่ที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่วนปัจจัยในประเทศมีแรงกดดันจากการชุมนุม "แฟลชม็อบ" ของกลุ่มนิสิตนักศึกษาเพื่อแสดงออกถึงจุดยืนในระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ภาคการผลิตและภาคบริการของจีนมีแนวโน้มหดตัวแรงจากการที่สำนักงานสถิติจีนรายงานดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ.ร่วงแตะ 29.6 ส่วน PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.ร่วงแตะ 35.7 ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามปัจจัยที่อาจจะมีผลต่อการลงทุนในระยะสั้น อาทิ การเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 4/62 และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค.ของสหรัฐในวันที่ 5 มี.ค. รวมทั้งการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 5-6 มี.ค. ส่วนวันที่ 6 มี.ค. สหรัฐจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. ยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าเดือนม.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค. และวันที่ 7 มี.ค. จีน เปิดเผยยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าเดือนม.ค.-ก.พ. และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.พ.

ด้านนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดมีปัจจัยบวกเข้ามาบ้าง อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อหนุนเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของโควิด-19 หรือเงินบาทอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก และกระทรวงการคลังกำลังเร่งพิจารณาออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเร่งด่วนในการช่วยเหลือด้านการเงินและภาษี เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ดัชนีดีดตัวแรง

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า เช่น TU และ CPF รวมทั้งหุ้น Defensive เช่น RATCH, TTW, ADVANC และ CHG นอกจากนี้ยังมีหุ้น High Dividend เช่น KKP, TISCO และ INTUCH ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมามากในช่วงที่ผ่านมา

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับราคาทองคำคาดว่ามีโอกาสรีบาวด์ได้หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และ LIBOR ยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวในไตรมาส 1/63 นอกจากนี้หากพิจารณาสถานะการถือครองทองคำของกองทุน SPDR ยังคงถือสถานะที่ระดับ 934 ตัน ใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี 4 เดือนเป็นสัญญาณของกองทุน passive และธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ยังคงถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย มองกรอบราคาทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,585-1,640 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 23,520-24,420 บาทต่อบาททองคำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ