นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาฟเตอร์ ยู (AU) กล่าวว่า บริษัทเตรียมปรับเป้ารายได้ปี 63 ในช่วงกลางปีนี้ จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 15% เนื่องจากขณะนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลทำให้กำลังซื้อลดลง ซึ่งเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือน ก.พ.63 เป็นต้นมา โดยเฉพาะสาขาที่ปกติมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก เช่น สาขาราชประสงค์ เป็นต้น
หลังจากที่มีปัจจัยลบดังกล่าวเกิดขึ้น บริษัทก็มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน เพื่อลดผลกระทบให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ทั้งลดการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการขยายสาขา ยกเว้นสาขาที่มีกำหนดเปิดแน่นอนแล้วในปีนี้จำนวน 6 สาขา โดยจะหันมาดำเนินการในรูปแบบ Pop Up Store มากขึ้น วางเป้าหมายไว้ที่ 100 อีเวนท์ เพื่อพยุงสถานการณ์ดังกล่าว อีกทั้งยังชะลอการซื้อวัตถุดิบ และต่อรองค่าเช่าของพื้นที่ต่างๆ เป็นต้น
ส่วนการเปิดสาขาที่ฮ่องกง ได้ตัดสินใจเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดจากเดิมคาดว่าจะเปิดได้ภายในกลางปีนี้ เพื่อรอดูสถานการณ์ดังกล่าว
"เดือนแรกเรายังไม่เห็นผลกระทบ แต่เดือนก.พ.63 เริ่มมีผลกระทบเข้ามาเรื่อยๆ เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงอย่างมาก และคนไทยเองก็กลัวการเดินห้าง เราก็ยอมรับว่าน่าจะส่งผลต่อตัวเลขอย่างแน่นอน แต่เราก็มีการปรับกลยุทธ์ ซึ่งเรียกได้ว่าปรับกันรายวัน ทั้งการชะลอการลงทุน การจัดซื้อจัดจ้าง การต่อรองพื้นที่เช่า การชะลอการซื้อวัตถุดิบ ซึ่งน่าจะช่วยให้ผลกำไรเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ ซึ่งเราก็เตรียมออกโปรดักส์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดก็มีการออก ปิงชูมะยงชิด ก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมาก"นายแม่ทัพ กล่าว