โบรกฯ เชื่อ ตลท.ยังไม่ปรับเวลาเทรดแค่เตรียมพร้อมหากมีการประกาศเคอร์ฟิว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 31, 2020 11:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่าหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้สอบถามความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องจากวงการตลาดเงินตลาดทุนถึงการปรับเวลาปิดทำการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดอนุพันธ์ (TFEX) นั้น เชื่อว่า ตลท.เตรียมความพร้อมหากภาครัฐบาลประกาศห้ามไม่ให้บุคคลออกนอกเคหะสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด (เคอร์ฟิว)

อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ ตลท.ประกาศออกมาในช่วงก่อนหน้านี้เป็นมาตรการที่เพียงพอต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน และถือว่าได้ผลค่อนข้างดี สามารถลดความร้อนแรงของตลาดหุ้นไทยได้ และช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นมากเกินไปในช่วงที่เกิดความตื่นตระหนก "ปัจจุบันมาตรการที่มีออกมาถือว่าเพียงพอ เหลือแค่เรื่องของการปรับเวลาการซื้อขายหากภาครัฐมีประกาศเคอร์ฟิว แต่อย่างไรก็ตามหากระยะเวลาที่ภาครัฐประกาศออกมาแล้วไม่กระทบต่อการทำงาน เชื่อว่า ตลท.จะยังคงระยะเวลาการซื้อขายไว้ สำหรับช่วงเวลานี้แนะนำนักลงทุนว่าให้ถือเงินสดไว้เป็นหลัก เพราะไม่รู้ว่าจุดต่ำสุดของดัชนีอยู่ที่ไหน ถ้าจะซื้อตอนช่วงดัชนีขึ้นแล้วก็ยังไม่สายเพราะดัชนีปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก"นางภัทธีรา กล่าว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ กล่าวว่า มองว่า ตลท.จะปรับเปลี่ยนเวลาก็ต่อเมื่อภาครัฐมีการประกาศใช้เคอร์ฟิว เนื่องจากมีพนักงานบางส่วนที่ยังจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังที่ทำการ ตลท.เพื่อดูแลระบบการซื้อขาย แต่หากไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเวลาการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์

สำหรับมาตรการต่างๆ ที่ ตลท.นำออกมาใช้นั้น ถือว่าเพียงพอต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่หากสถานการณ์มีความเปลี่ยนแปลงไปก็ต้องมีการทบทวนเพื่อที่จะใช้มาตรการอื่น ๆ เพื่อให้เพียงพอและเหมาะสมด้วย

"ปัจจุบันถือว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาก็เพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตลาดตราสารหนี้ และในส่วนของตลาดหุ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่องว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปและปรับตามการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยการลงทุนในปัจจุบันเราแนะนำให้เป็นเงินเย็นที่สามารถถือได้นาน โดยเชื่อว่าหากสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลงหุ้นก็จะกลับมาบวก ซึ่งปัญหาของการลงทุนที่ทำให้ขาดทุนส่วนใหญ่คือการซื้อเร็วและขายเร็ว โดยในช่วงระยะเวลาที่เกิดวิกฤตถือว่าเป็นโอกาสด้วย"นายไพบูลย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ