ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดร่วง 37.9 จุดหลังธนาคารอังกฤษขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 6, 2007 07:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่อ่อนตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีของสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลหลังจากธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 37.9 จุด ปิดที่ 6,635.2 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 6,691.8-6,625.8 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 3.1 พันล้านหุ้น นายโรเจอร์ เคอร์ลีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์อินเวสท์เทคกล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงาเนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวกเข้ามาเกื้อหนุน แต่มีปัจจัยลบมากมายเข้ามากดดัน โดยเฉพาะการที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย และตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลง" ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว โดยนักวิเคราะห์มองว่าการที่ธนาคารกลางตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาจากราคาบ้านในอังกฤษที่พุ่งขึ้น 1.1% ในช่วงเดือนมิ.ย.-พ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หุ้นโวลเซลีย์ซึ่งเป็นบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลงหนักสุดถึง 32 เพนซ์ ปิดที่ 1,183 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ามูลค่าการเข้าซื้อกิจการในบริษัทอื่นๆตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ปีที่แล้วนั้น มีมูลค่ารวม 374 ล้านปอนด์ ส่วนหุ้นโวดาโฟนร่วงลง 4 เพนซ์ ปิดที่ 162.1 เพนซ์ หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า ธุรกิจโทรศัพท์มือถือรุ่น O2 ของเทเลโฟนิกา ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรเครือข่ายโทรศัพท์ iPhone ของบริษัทแอ็ปเปิ้ลในประเทศอังกฤษ ขณะที่หุ้นไอทีวีปรับตัวลง 2.3 เพนซ์ ปิดที่ 122.2 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว และประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทไอทีวี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ