(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ อิงลงตามภูมิภาค กังวลสถานการณ์จีน-สหรัฐตึงเครียด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 22, 2020 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ให้น้ำหนักทางลงเล็กน้อย เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ติดลบกันเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงจะติดลบมากกว่าตลาดอื่น จากสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่ตึงเครียดขึ้น โดยทางวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด และทางประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่ว่าสหรัฐจะตอบโต้จีนอย่างรุนแรง หากจีนออกกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงเพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ปัจจัยดังกล่าวนี้ทำให้สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดขึ้นด้วย

อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ และการเปิดเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยก็ทำการควบคุมได้ดีกว่าประเทศอื่นทั่วโลก

พร้อมให้แนวับ 1,315-1,305 จุด ส่วนแนวต้าน 1,330-1,335 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,474.12 จุด ลดลง 101.78 จุด (-0.41%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,284.88 จุด ลดลง 90.90 จุด (-0.97%) ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,948.51 จุด ลดลง 23.10 จุด (-0.78%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 31.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 523.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 30.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 22.30 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.74 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 พ.ค.63) 1,320.69 จุด ลดลง 1.51 จุด (-0.11%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,372 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 พ.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 พ.ค.63) ปิดที่ 33.92 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 1.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 พ.ค.) อยู่ที่ -0.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.86 ทรงตัวจากวานนี้ จับตาตัวเลขส่งออกไทย-ประชุมศบค. นักลงทุนกังวลสถานการณ์จีน-สหรัฐตึงเครียด
  • คมนาคม เปิดทาง คลัง เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูการบินไทย เตรียมรวบรวม 30 รายชื่อ ส่งนายกฯ 25 พ.ค.นี้ ด้าน "ศักดิ์สยาม" สั่งฝ่ายบริหารการบินไทยเร่งจัดทำบัญชีทรัพย์สิน แจงหนี้ทั้งในและต่างประเทศ หวังเดินหน้าขั้นตอนเจรจา "วิษณุ" เผย 3 เดือนแผนฟื้นฟูการบินไทยต้องเสร็จ ย้ำ "คลัง" ต้องขายหุ้นทิ้ง 3% ดันการบินไทยพ้นสถานะรัฐวิสาหกิจ
  • "สมคิด" ยันโครงสร้างพื้นฐาน อีอีซีเดินหน้าทุกโครงการ ชี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัว ไทยได้ประโยชน์เต็มที่ สั่งตั้งคณะทำงานร่วม ไฮสปีด-อู่ตะเภา ดันเปิดพร้อมกันปี 66 ด้าน "คณิศ" ชงสัญญาร่วมทุนบีบีเอส-กองทัพเรือเข้า ครม.ลงนามต้น มิ.ย. ยืนยันเอ็มอาร์โอไม่สะดุด แม้การบินไทยฟื้นฟูกิจการ
  • มติที่ประชุม สมช.เสนอให้ ศบค.ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่ออีก 1 เดือน ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ แต่เล็งลดเวลา "เคอร์ฟิว" ให้สอดคล้องมาตรการผ่อนปรน ยันไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง "โฆษก ศบค." แถลงพบ ป่วยใหม่ 3 ราย เคยไปร้านตัดผม-เดินห้าง ไม่คอนเฟิร์มเฟส 3 เปิดร้านนวด แจงเปิดห้าง-แต่ไม่เปิดโรงเรียน เหตุกลุ่มเปราะบางติดเชื้อง่าย
  • คลัง เบรกประเมินจีดีพีชั่วคราวหลังไวรัสโควิด-19 แผลงฤทธิ์กระทบเศรษฐกิจไทยสะดุด แจงขอใช้ข้อมูลเดียวกับสภาพัฒน์ไปก่อน มองไตรมาส 2 โคม่าหนักสุด ลุ้นครึ่งปีหลังเศรษฐกิจเริ่มผงกหัว เหตุรัฐบาลเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์
  • นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีมีภาคเอกชนเรียกร้องให้กระทรวงการคลังออกมาตรการ"ชิม ช้อป ใช้" และ"ช้อปช่วยชาติ" มากระตุ้นเศรษฐกิจว่า ยังเร็วเกินไปที่จะออกมากระตุ้นในตอนนี้ เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญมาตรการดูแลทางสาธารณสุขก่อน และปัจจุบันก็ยังมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การประกาศเคอร์ฟิว และห้างร้านต่าง ๆ ยังกลับมาเปิดได้ไม่ปกติ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพิจารณาการใช้มาตรการกระตุ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.70 บาทมีโอกาสปรับขึ้น แนวโน้มกำไร Q2/63 คาดลดลง Q-Q เป็น bottom ของปีเพราะการ lockdown เดือน เม.ย. (รายได้ผู้ป่วยเงินสด -20% Y-Y) แต่กำไรยังโต Y-Y เพราะฐานปีก่อนต่ำ และเดือน พ.ค. เริ่มดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ผู้ป่วยกลับมาใช้บริการมากขึ้น รายได้จากประกันสังคม (32% ของรายได้รวม) แข็งแกร่งจากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น 1.3 หมื่นคน (+3% Y-Y) และการปรับเพิ่มค่าหัว 6-7% ตั้งแต่ต้นปี ด้านผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตเป็นเลขสองหลัก ตั้งเป้าจุฬารัตน์ 304 และ RPC คุ้มทุนปีนี้ aggressive กว่าสมมติฐาน โดยจะขอดูตัวเลข พ.ค.-มิ.ย. ก่อนปรับขึ้น
  • RS (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 14 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางผลกำไรของ RS ในปีนี้และปีหน้า จากการเดินเกมรุกทั้งธุรกิจ TV และ commerce โดยบริษัทวางแผนขายคอนเทนต์ต่างๆ (ละคร) ไปยังต่างประเทศมากขึ้น ขณะที่ ธุรกิจ commerce จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางของพาร์ทเนอร์ อาทิ Work point TV, ไทยรัฐ TV และ อัมรินทร์ TV และยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมจาก Skin care และถั่งเช่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ