MAX ย้ำแผนลงทุน 2 บริษัทปิดความเสี่ยงแล้ว-คุ้มค่าระยะยาว หลัง ก.ล.ต.เตือน ผถห.ร่วมโหวต

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 15, 2020 10:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกุศล สังขนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น (MAX) ชี้แจงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตือนผู้ถือหุ้น MAX ใช้สิทธิวาระซื้อหุ้น 2 บริษัท คือ บริษัท เดอะมาสเตอร์ เรียลเอสเตท จำกัด (MASTER) และบริษัท อริยา เอสเตท จำกัด (ARIYA) ซึ่งบริษัทจะขอมติอนุมัติในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 19 มิถุนายน 2563

นายกุศล กล่าวว่า การจะเข้าลงทุนใน 2 บริษัทดังกล่าวเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทีมบริหารและคณะกรรมการของบริษัทแสวงหาช่องทางธุรกิจที่เหมาะสมตลอดมา เมื่อมีโอกาสที่ดีให้เข้าลงทุนในธุรกิจบริการและอสังหาริมทรัพย์ ทางบริษัทจึงได้เข้าศึกษาถึงทั้งความคุ้มค่าในการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะได้รับอย่างถี่ถ้วน

ทั้งนี้ ทุกขั้นตอนการศึกษาพิจารณาบริษัทได้ว่าจ้างให้ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินอิสระ 2 ราย รวมถึงที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) อีก 1 ราย ช่วยศึกษาและประเมินถึงโอกาสและราคา โดย FA ให้ความเห็นว่าราคาที่บริษัทจะเข้าทำรายการนั้นสมเหตุสมผลแล้ว ซึ่งราคาซื้อขายดังกล่าวต่างจากที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ประเมินไว้เพียงประมาณ 10%

ด้านความเสี่ยงเรื่องพื้นที่ให้บริการภายในโรงแรมที่ IFA เป็นกังวลนั้น บริษัทก็ได้ทำการปิดความเสี่ยงไว้แล้ว เช่น สัญญาเช่าพื้นที่ส่วนกลาง บริษัทได้จัดทำเป็นสัญญาระยะยาว 12 ปี แทนสัญญาระยะสั้น, หรือ การแข่งขันของตึกโรงแรมอื่นๆ ภายในโครงการ ซึ่งปัจจุบันก็มีบางตึกที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ และยังไม่เปิดให้บริการ แต่ถึงแม้จะเปิดให้บริการ บริษัทยังมีการป้องการความเสี่ยง โดยจัดทำสัญญาเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกค้าที่จะเข้าพักเข้ามาใช้บริการกับเราก่อน ซึ่งบริษัทเองก็ยังมี bargaining power ที่สูงมาก เพราะตึกโรงแรมอื่นๆ ไม่มีสระว่ายน้ำและพื้นที่ส่วนกลาง มีแต่เราเท่านั้นที่มี จึงมั่นใจว่าเป็นการเข้าลงทุนที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น

"การจะเข้าลงทุนในทั้ง 2 บริษัทครั้งนี้ จะเป็นการลงทุนแบบระยะยาวที่คุ้มค่ากับเงินลงทุน ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าสมควรลุยดำเนินการอย่างเต็มที่ทุกกรณี โดยเมื่อเทียบกับความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรของบริษัทในปัจจุบันแล้ว การเข้าลงทุนครั้งใหม่นี้ จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่คุ้มค่าต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน"นายกุศล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ