TOG รับรายได้ปีนี้พลาดเป้าโต 7% โควิดทำยอดขายหด,ตั้งตัวแทนขายยุโรปใน Q4/63

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 17, 2020 16:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG) เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับว่ารายได้ปีนี้คงเติบโตได้ยาก จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 7% หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตรง ทำให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อเลนส์พลาสติกธรรมดา (Standard) ในช่วงเดือน มี.ค.63 เนื่องจากประเมินว่าสถานการณ์น่าจะยืดเยื้อจึงไม่มีความต้องการรับสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้รายได้จากกลุ่ม Standard ลดลง

ขณะที่กลุ่มเลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม (Value-added) ก็มีรายได้ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่วนกลุ่มเลนส์สั่งฝนพิเศษ (RX) ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ประกาศปิดประเทศในช่วงปลายเดือน มี.ค.63

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 1/63 เนื่องจากตลอดทั้งเดือน เม.ย.63 บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ จากมาตรการล็อกดาวน์ในแต่ละประเทศ ซึ่ง TOG มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากการส่งออกมากถึง 95% ไปยังประเทศมากกว่า 50 ประเทศ โดยมีกลุ่มประเทศหลักๆ ได้แก่ ยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ และเอเชียแปซิฟิก เป็นต้น

ขณะเดียวกันยอดขายในสหรัฐฯ ผ่านบริษัท ทีโอจี ยูเอสเอ ไอเอ็นซี (TOG USA, Inc.) ในรัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็สะดุดลงในเดือน เม.ย.63 ต่อเนื่องมาถึงเดือนพ.ค.63 ก่อนจะกลับมาเริ่มขายได้ในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากโควิด-19 ก็ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการควบคุมสถานการณ์ก็ไม่ได้ดีเท่ากับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน แม้จะเริ่มเห็นการกลับเข้ามาสั่งซื้อสินค้าบ้างแล้วในเดือน พ.ค.63 แต่ก็ยังเป็นไปค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสินค้า RX ที่ส่งไปยังประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่จะใช้การขนส่งทางอากาศ ทำให้ความสามารถในการส่งสินค้ายังมีจำกัด โดยบริษัทได้ติดต่อสื่อสารกับทางลูกค้าถึงประเด็นดังกล่าว และลูกค้าก็มีความเข้าใจเป็นอย่างดี

"ในเดือนเม.ย.เราอยู่ในสภาพเป็นศูนย์ หรือไม่มี movement ทั่วโลก แต่ในเดือน พ.ค.เริ่มเห็นการสตาร์ทเครื่องของบางประเทศ เดือน มิ.ย.ก็มีการสตาร์ทเครื่องอีกบางประเทศ และก็น่าจะมีการสตาร์ทเครื่องไปเรื่อยๆ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวก็ทำให้เชื่อได้ว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ คงไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับผลการดำเนินงานในปีไหนๆของบริษัทได้ เพราะระบบการค้าของโลกไม่ได้กลับมาสู่ในภาวะที่ปกติ แต่เราเชื่อว่ายังมีความต้องการสินค้าในระดับเดิมอยู่ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับสุขภาพ" นายธรณ์ กล่าว

ทั้งนี้แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ ก็เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ได้แก่ Zoul Play เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล สำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง และ Zoul Drive เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลสำหรับการขับขี่รถยนตร์ คาดจะสามารถวางตลาดได้ในไตรมาส 3/63 และจะจำหน่ายผ่านร้านหอแว่นในประเทศไทย

ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไปแล้ว ได้แก่ Zenith IRIS เลนส์โปรเกรสซีฟดิจิตอลเฉพาะบุคคลด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์, Zoul Work เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะทาง สำหรับผู้ทำงานในออฟฟิศ และ Zeen เลนส์โปรเกรสซีฟดิจิตอลเฉพาะบุคคลด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

นอกจากนี้บริษัทจะเร่งรัดจัดตั้ง Local distribution หรือ TOG ยุโรป ที่ประเทศโปแลนด์ เพื่อลดผลกระทบคำสั่งซื้อที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้าปลายทาง และตอบสนองกับการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ในช่วงพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อสินค้าในปริมาณพอใช้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสั่งซื้อสินค้าล็อตใหญ่มากนัก โดยการดำเนินธุรกิจจะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่สหรัฐฯ คาดจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 4/63


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ