(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาค หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 3, 2020 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.3-0.5% หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาพุ่งขึ้นเกินคาด และอัตราว่างงานของสหรัฐฯก็ลดลงด้วย ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจมากขึ้น อีกทั้งยังมีความหวังจากความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย แม้ว่าจะยังต้องระวังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และบราซิล

นอกจากนี้ ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทยที่จะประกาศในวันนี้ คาดว่าจะติดลบ 3% และให้ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฏร ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วาระแรก รวมถึงติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของทั่วโลก ตลาดคาดว่าจะดีขึ้น

พร้อมให้แนวรับ 1,365-1,355 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380-1,385 จุด ที่บริเวณแนวต้านนี้ให้ระวังอาจมีการขายล็อกกำไรก่อนหยุดระยะยาว

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,827.36 จุด เพิ่มขึ้น 92.39 จุด (+0.36%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,130.01 จุด เพิ่มขึ้น 14.15 จุด (+0.45%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,207.63 จุด เพิ่มขึ้น 53.00 จุด (+0.52%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 120.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 13.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 195.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 52.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.95 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 7.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ค.63) 1,374.13 จุด เพิ่มขึ้น 24.69 จุด (+1.83%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 619.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ก.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ก.ค.63) ปิดที่ 40.62 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 2.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ค.) อยู่ที่ -0.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.11 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดมีหลายปัจจัยผสมผสาน ให้กรอบ 31.05-31.20 จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทยเช้านี้
  • "สมคิด" สั่ง "คลัง" ศึกษามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวระดับชุมชน พร้อมปลุกกำลังซื้อคนรวยใช้จ่าย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ประคองจ้างงาน จี้"แบงก์ชาติ" ศึกษากลไกช่วยบริษัทขนาดใหญ่ที่ขาดสภาพคล่อง พร้อมเล็งยืดมาตรการ พักชำระหนี้ ขณะ "นายกฯ" นัดครม.เศรษฐกิจ ถกแผนฟื้นประเทศหลังโควิด สร้างความร่วมมือรัฐ-เอกชนครั้งใหญ่ หารือกันทุก 2 สัปดาห์ เริ่ม 10 ก.ค.นี้
  • นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า โครงการที่เร่งผลักดันให้เกิดภายในปีนี้หลายโครงการ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการแบ่งสัญญาออกเป็น 3 สัญญา คาดว่าจะเปิดประมูลภายในปีนี้

ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม อยู่ระหว่างการจัดทำร่างทีโออาร์ หลังจากนั้นจะประกาศเพื่อเปิดประมูลได้ภายในปีนี้เช่นเดียวกัน ส่วนการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เตรียมเดินหน้าต่อเนื่องเพื่อให้มีการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาด้านการลงทุนให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ราง

  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้คลัง กรมสรรพากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งไปพิจารณาออกมาตรการเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อรับมือกับผลกระทบจากไวรัสโควิดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะวิกฤติปัญหาคนตกงาน ธุรกิจปิดกิจการ ปัญหาหนี้เสียของสถาบันการเงิน และกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมรับมือล่วงหน้าตั้งแต่ต้นทาง เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำรอยกับวิกฤติปี 40 ซึ่งไทยเคยมีบทเรียนมาแล้ว โดยทุกมาตรการต้องทำให้เสร็จกลางเดือน ก.ค.นี้ ทั้งนี้ สรรพากร และ สศค.จะต้องช่วยกันทำมาตรการทางภาษีกระตุ้นการบริโภค โดยเน้นดึงคนร่ำรวยออกมาใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังให้ สศค.ไปหาทางกระตุ้นการท่องเที่ยวระดับชุมชน และท้องถิ่นเพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรการเสริมจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่จะเริ่มกลางเดือนนี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • JMART-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.เจ มาร์ท (JMART) ครั้งที่ 3) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 100,730,041 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 2 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 11 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 ก.ย.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 17 มิ.ย.65
  • JMART-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.เจ มาร์ท (JMART) ครั้งที่ 4) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 100,730,041 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 4 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 15 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 ก.ย.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 18 มิ.ย.67
  • AP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7 บาท ท่ามกลางโควิด-19 แต่สร้างยอด presales สูงถึง 9.7 พันลบ.เพียง 2 เดือนแรกของ Q2/63 +60% Q-Q จากยอดขายที่โดดเด่นของแนวราบทั้งโครงการเก่าและที่เปิดใหม 6 โครงการซึ่งมี take up rate เฉลี่ย 15% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยโมเมนตัมกำไร Q2-3/63 เร่งตัวขึ้นจากการโอน Life Ladprao และ 2 คอนโดใหม่ ทั้งนี้ AP เปิดโครงการแนวราบมากที่สุดในกลุ่ม และมี Backlog รองรับยอดโอนปีนี้แล้ว 96% ประมาณการของเรามี upside ราคาหุ้นเทรดที่ 2563 6.3 เท่าและ PBV 0.7 เท่า และคาด Dividend yield อีก 5.6% จึงเป็น Top pick ของกลุ่ม
  • SPRC (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 10 บาท ประเมินการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วโลกหนุนดีมานด์เชื้อเพลิงใน H2/63 พร้อมประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน Q2/63 Turnaround จากไม่มีขาดทุนสต๊อก (ลุ้นกำไร) และค่าการกลั่นของโลกกลั่นไทยฟื้นตัวขึ้น QoQ ด้าน PBV 1.16 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.4 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ