ASP มองตลาดหุ้นไทย Q3/63 พักฐานรับผลล็อกดาวน์กด GDP-กำไร บจ.แต่คาดฟื้นใน Q4/63

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 8, 2020 14:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ บมจ. เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3/63 จะอยู่ในช่วงของการพักฐาน สะท้อนภาพปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/63 โดยเฉพาะอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) คาดว่าจะติดลบ 15% จากผลของมาตรการล็อกดาวน์

รวมถึงคาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS Growth) ครึ่งปีแรกน่าจะลดลง 2 แสนล้านบาท โดยกำไรงวดไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 1.06 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15% ของประมาณการกำไรทั้งปี 63 ส่วนงวดไตรมาส 2/63 คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 แต่จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) อาจทำกำไรได้เพียง 30-40% ของประมาณการทั้งปี 63 ที่เคยประเมินไว้ 6.88 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น EPS เท่ากับ 64 บาท/หุ้น

นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงที่เหลือของปี บจ.จะต้องทำกำไรเกินกว่า 60-70% ของประมาณการ ถือเป็นสิ่งที่ท้าท้าย โดยประเมินความเสี่ยงกำไร บจ.ปี 63 มีโอกาสถูกปรับลงอีก สวนทางกับ SET Index ที่ปรับขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะที่"ยิ่งปรับขึ้นไป ยิ่งไกลพื้นฐาน"

ขณะที่ภาพของเงินทุนไหลเข้า (Fund Flow) ในไตรมาส 3/63 มองว่าจะเห็นการชะลอตัว เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง ทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับต่ำ หรือที่ 2.72% บนพื้นฐานดัชนีที่ 1,360 จุด ส่วน Fund Flow ในประเทศก็ขาดวอลุ่มเข้ามา support หลังสิ้นสุดกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) หมดไปในเดือน มิ.ย.63 ซึ่งสุทธิของกองทุนดังกล่าว ณ วันที่ 30 มิ.ย.63 อยู่ที่ 8,803 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ แนะนำนักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนในไตรมาส 3/63 แบ่งเป็น ตลาดหุ้นในประเทศ 30%, ตลาดต่างประเทศ 15%, ตราสารหนี้ 40% และที่เหลือเป็นตราสารทางเลือก โดยการลงทุนให้เน้นหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และกลุ่มที่อิงกระแสการประมูลโครงการลงทุนของภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นการบริโภค เช่น BGRIM, CPF, CPALL, INTUCH, INSET, SEAFCO

ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในช่วง 1,250-1,420 จุด

ส่วนทิศทางตลาดหุ้นในไตรมาส 4/63 เบื้องต้นประเมินว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น จากกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ปรับตัวดีขึ้น และพัฒนาการวัคซีนโควิด-19 ก็น่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้บ้างแล้ว รวมถึง Fund Flow น่าจะกลับมาในช่วงปลายไตรมาส 4/63 หลังจากนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมองไปข้างหน้า หรือปีหน้ากันแล้ว โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,440 จุด

นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าภาครัฐมีการออกมาตรการออกมาค่อนข้างมาก แต่ก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมองว่าจากนี้ภาครัฐจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบเพิ่มมากขึ้น และเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม และสีม่วง รวมถึงกการลงทุนโครงข่ายสื่อสารที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G ของภาคเอกชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นตัวช่วยผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้ได้

สำหรับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี มองว่าเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ภาพที่เห็นในขณะนี้น่าจะเป็นการปรับโครงสร้างภายในพรรคแกนนำรัฐบาลมากกว่า ไม่ได้มีผลกับความเชื่อมั่นหรือการลงทุนมากนัก ซึ่งทาง บล.เอเซียพลัส จะให้น้ำหนักกับนโยบาย หรือใครเข้ามาแล้วสามารถปฎิบัติได้มากกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ