โบรกฯปรับเป้าราคา PTTCH หลังคาดกำไรปี 50 ฟื้น-เก็งจ่ายปันผลสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 18, 2007 16:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกเกอร์แห่ปรับเป้าหมายราคาหุ้น บมจ.ปตท.ปิโตรเคมิคอล(PTTCH)ใหม่พร้อมแนะลงทุน หลังคาดกำไรในปี 50 ฟื้นตัว โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังกำไรจะออกมาโดดเด่นเมื่อเดินเครื่องผลิตเต็มกำลัง แม้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/50 จะปรับลดลง จากการหยุดซ่อมบำรุงและรับผลกระทบบาทแข็ง แต่แนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมียังสดใสต่อไปจากโครงการเพิ่มกำลังการผลิตและโรงงานปิโตรเคมีแถบตะวันออกกลางเลื่อนออกไป พร้อมคาดว่าปีนี้จะจ่ายปันผลได้สูง ลุ้นจ่ายปันผลระหว่างกาล 
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท)
บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 120
บล.ทรีนิตี้ ซื้อ 116
บล.นครหลวงไทย ซื้อ 115.95
บล.กสิกรไทย ซื้อ 114
บล.ไซรัส เทรดดิ้ง 113
บล.กิมเอ็ง ซื้อเมื่ออ่อนตัว 113
บล.กรุงศรีอยุธยา ปรับประมาณการกำไรปกติ และกำไรสุทธิปี 50 ของ PTTCH สูงขึ้น 5% จากเดิม เป็น 14,016 ล้านบาท และ 14,168 ล้านบาท ตามลำดับ และส่วนปี 51 ยังคงประมาณการกำไรปกติ และกำไรสุทธิที่ 14,891 ล้านบาท คาด Spread เอทิลีน ยังแข็งแกร่งในปี 50-51 จากการเพิ่มขึ้นอย่างสมดุลของอุปสงค์และอุปทานใหม่ของเอทิลีนในตลาดโลกที่ 4 ล้านตัน และ 6 ล้านตัน ในขณะที่ Spread HDPE — แนฟทา คาดจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในปี 50-51 จากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ใหม่ที่คาดจะสูงกว่าอุปทานใหม่ 0.25 ล้านตัน และ 0.6 ล้านตัน ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/50 Spread โอเลฟินส์ อ่อนแอกว่า Spread HDPE และ Spread MEG เทียบ YoY คาดกำไรสุทธิจะลดลง 12% YoY จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานและสัดส่วนการใช้แนฟทาที่สูงขึ้น
ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิปี 50-51 จะไม่โดดเด่น หรืออาจทรงตัว แต่เงินสดในมือมีอยู่สูง จึงคาดว่าจะทำให้ PTTCH สามารถรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลได้ที่ 5.25 บาท/หุ้นได้ (คิดเป็น Yield 5.2%)
"หากเปรียบเทียบ PTTCH ที่มีจุดเด่นจากการเป็นโรงงานปิโตรเคมี Gas-based และมีสูตร Netback Pricing ในส่วนของวัตถุดิบก๊าซ รวมทั้งความสมดุลของการกระจายการลงทุนทั้งธุรกิจปิโตรเคมีขั้นต้นและขั้นปลาย ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของ Spread ให้อยู่ในระดับที่ต่ำ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ แต่กลับซื้อขายที่ P/E ใกล้เคียงกับบริษัทปิโตรเคมีในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็น Naphtha-based ที่ซื้อขายที่ P/E 10-11 เท่า"บทวิเคราะห์ของบล.กรุงศรีอยุธยาระบุ
ด้าน บล.ทรินิตี้ คาดการณ์กำไรงวด 2Q50 ยังโตไม่เต็มที่ ต้องรอครึ่งหลังปี 50 จึงได้ปรับราคาเป้าหมายของ PTTCH ขึ้นจาก 96 บาท เป็น 116 บาท โดยเปลี่ยนการอิงค่า PER ในปี 2551 จากระดับ 8.3 เท่า เป็น 10 เท่า ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับการประเมินมูลค่าหุ้นอื่นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
ความโดดเด่นของ PTTCH คาดว่าอยู่ที่ช่วงครึ่งหลังปี 50 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวดี จากการผลิตเต็มที่และราคาผลิตภัณฑ์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี พร้อมคาดการณ์มีปันผลระหว่างกาลประมาณ 2.50-2.75 บาทต่อหุ้น โดยรวมทั้งปีคาดว่าบริษัทจ่ายปันผลได้ถึง 5.90 บาทต่อหุ้น เป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนระยะนี้
บล.กสิกรไทย ปรับประมาณการกำไรสุทธิในไตรมาส 2/50 ของ PTTCH ลงจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3,858 ล้านบาท เป็น 3,393 ล้านบาท หรือลดลง 12% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ แต่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"ด้วยราคาเป้าหมาย 114.00 บาท ประเมินโดยใช้ EPS เฉลี่ยปี 2550-2551 ที่ 10.88 บาทต่อหุ้น และค่า P/E เฉลี่ย 10.5 เท่า โดยมองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/50 ที่จะประกาศในวันที่ 7 ส.ค.2550 จะออกมาต่ำกว่าคาดส่งผลให้ราคาหุ้น PTTCH ปรับลดลงในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/50 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเต็มกำลัง และส่วนต่างราคาที่อยู่ในระดับสูงตามความต้องการตามฤดูกาลที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกำลังการผลิตใหม่จากตะวันออกกลางที่คาดว่าจะเลื่อนออกไปเป็นปี 2551 และอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจก็จะเป็นปัจจัยที่ดูดซับอุปทานส่วนเพิ่มที่เข้ามาในตลาด ดังนั้น ส่วนต่างปิโตรเคมีมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปจนปี 2552
ขณะที่ บล.นครหลวงไทย คาดว่าผลประกอบการใน Q3/50 จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เมื่อ PTTCH สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ Spread ผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ เอทิลีน โพรพิลีน และ HDPE คาดว่าจะยังคงได้รับประโยชน์จากการเลื่อนการเปิดดำเนินการของโครงการ Arya Sasol (NPC#9) และ โครงการ Jam PC (NPC#10) กำลังการผลิตรวม 2.32 ล้านตัน ไปใน Q1/51 และยังคงสมมติฐาน Spread เอทิลีนปี 2550 ไว้ที่ US$494 ต่อตัน และคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2550 ของ PTTCH ไว้ที่ 15,918 ล้านบาท
ส่วน บล.ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ PTTCH ที่ 113 บาท โดยอิง PE เป้าหมายปี 51 ที่ Aggressive ขึ้นเป็น 10.5 เท่า ใกล้เคียงกับ PE ตลาดฯ ปัจจุบันที่ระดับประมาณ 12 เท่า และ PE ของบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีในภูมิภาคที่ 10-11 เท่า รวมทั้งเพื่อสะท้อนมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มราคาและมาร์จิ้นของ HDPE (ซึ่งจะทำรายได้เป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 50%) ราคาหุ้นปัจจุบันมีส่วนลด 7.6%
และจากเงินสดในมือที่มีค่อนข้างมาก คาดว่า PTTCH จะจ่ายปันผลปี 50-51 ได้สูงเท่าปีก่อนที่หุ้นละ 5.25 บาท ซึ่งจะคิดเป็น Dividend yield ระดับ 5.0% โดยจะแบ่งจ่ายปีละ 2 ครั้ง งวดแรกหุ้นละประมาณ 2.25 บาท
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)คาดว่า PTTCH จะประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 2/50 มีกำไรสุทธิ 3,223 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.16 บาท ลดลง 23% yoy เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นประมาณ 10% จาก 38.12 บาท/ดอลลาร์ในไตรมาส 2/49 มาอยู่ที่ 34.69 บาท/ดอลลาร์ในไตรมาสนี้, กำลังการผลิตโอเลฟินส์ที่หายไปประมาณ 20% จากการที่บริษัทมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน
แนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวครึ่งปีหลัง เนื่องจากไม่มีการ shutdown แม้จะคาดว่า spread margin ของทุกผลิตภัณฑ์จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปริมาณการจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นหลังจากขยายกำลังการผลิตและการเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลัง จะช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งปีหลังฟื้นตัวได้
และแม้ว่าผลกำไรในครึ่งปีแรกที่ประเมินจะคิดเป็นเพียง 37% ของประมาณการผลกำไรทั้งปีอยู่ที่ 15,462 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 10.38 บาท แต่การฟื้นตัวของผลกำไรในครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะทำให้ผลกำไรยังมีโอกาสเป็นไปตามที่เราประมาณการไว้ได้
"เราคาดว่าราคาหุ้นอาจจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในระยะสั้นจากกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ แต่การที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 20% จากปลายเดือนก่อน ก็ทำให้อัตราผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงแล้วยังไม่น่าสนใจนักในระดับราคาหุ้นปัจจุบัน เรายังคงคำแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว"บล.กิมเอ็ง ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ