(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาคหวั่นรับแรงถ่วงกำไรกลุ่มแบงก์แย่กว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 22, 2020 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ โดยยังคงตอบรับเรื่องสหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยบวก รวมถึงมีความคาดหวังทางฝั่งสหรัฐฯจะมีมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมา

อย่างไรก็ดี บ้านเราขณะนี้กลุ่มแบงก์ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ากำไร -35% yoy ซึ่งแย่กว่าเราและตลาดคาดไว้ โดยมีแค่ SCB และ BAY เท่านั้นที่งบฯออกมาดี ส่วน BBL ที่ออกมาวานนี้ก็ต่ำกว่าคาดเช่นกัน เป็นผลจากเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว ทำให้กังวลว่าอาจมีการปรับลดประมาณการกำไรทั้งปีนี้ลงอีก ซึ่งก็คงจะกระทบตลาดฯไปด้วย

อย่างไรก็ดี วันนี้ต้องติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ที่จะพิจารณาการต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไปอีก 1 เดือน และการปลดล็อกดาวน์เฟส 6 รวมถึงให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป

พร้อมให้แนวรับ 1,366 จุด ส่วนแนวต้าน 1,385 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,840.40 จุด เพิ่มขึ้น 159.53 จุด (+0.60%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,257.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด (+0.17%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,680.36 จุด ลดลง 86.73 จุด (-0.81%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 92.47 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 60.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 7.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.88 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ก.ค.63) 1,377.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.71 จุด (+1.38%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 688.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ก.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ก.ค.63) ปิดที่ 41.96 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ก.ค.) อยู่ที่ -0.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.54 แข็งค่าจากวานนี้ตามภูมิภาค จับตาความเคลื่อนไหวราคาทอง-ประชุมศบค.-ทีมศก.ใหม่
  • 9 แบงก์พาณิชย์ เผยกำไรไตรมาส 2 ดิ่งหนัก 35% ผลจากการตั้งสำรองที่เพิ่มกว่า 101% หวังรองรับแนวโน้มหนี้เสียที่ส่อพุ่งแรง โดย "เคแบงก์" ตั้งสำรองมากสุด กว่า 2 หมื่นล้าน ขณะ "กรุงไทย" กันสำรอง 1.47 หมื่นล้าน ด้าน "เอสซีบี" ตั้งเพิ่มเกือบ 80% "อาทิตย์" ยอมรับโควิด ส่อกระทบแบงก์ชัดเจนครึ่งปีหลัง แต่มั่นใจคุมอยู่เหตุตั้งสำรองไว้อื้อ
  • กระทรวงพาณิชย์ ขอความร่วมมือจำหน่ายหมูเป็นหน้าฟาร์มราคาไม่เกินกิโลกรัม (กก.) ละ 80 บาท เพื่อให้หมูชำแหละหน้าเขียงสำหรับเนื้อหมูแดงไม่เกิน 150 บาทต่อ กก. และเนื้อสันนอกไม่เกิน 160 บาทต่อ กก. โดยผู้เลี้ยงสุกรยืนยันเนื้อหมูมีเพียงพอ ดังนั้นในการดูแลเบื้องต้นเพื่อไม่กระทบต่อผู้บริโภคในประเทศ ขอให้ตรึงราคาตามที่ตกลงไว้กับกรม พร้อมจัดส่งเนื้อหมูราคาไม่เกิน 130 บาทต่อ กก.จำหน่ายในห้างค้าปลีกต่างๆ และที่ทำการพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
  • ซิตี้แบงก์ประเทศไทยปรับลดตัวเลขจีดีพีไทยทั้งปีเป็นติดลบมากขึ้น 6.8% จากเดิม 3.5% และจะกลับมาบวก 3.5% ได้ในปีหน้า พร้อมมองทิศทางตลาดหุ้นครึ่งปีหลังยังผันผวน แต่น้อยลง ด้าน บลจ.ทาลิสมองภาพรวมหุ้นไทยครึ่งปีหลังยังไปได้ต่อหลังสภาพคล่องในระบบมีอยู่สูง
  • "คมนาคม" ตั้งธงส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินเฟสแรก "ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา" ครบ 100% ภายใน ก.พ.64 สั่งเร่งเคลียร์ผู้บุกรุก-ยกเลิกสัญญาเช่า ด้านสหภาพฯ รฟท.ต้าน ไม่เอาเอกชนร่วมทุน PPP เดินรถสายสีแดง
  • ครม.ไฟเขียวเพิ่มเงินเที่ยวไทยเป็น 900 บาท/ห้อง จากเดิม 600 บาท แต่ต้องไปวันธรรมดาเท่านั้น พร้อมอนุมัติเงินพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้เปิด 3 โครงการจ้างงานช่วยพยุงเศรษฐกิจ วงเงิน 4 พันล้านบาทเศษ เน้นจ้างงานในชุมชน ทั้งดูแลผู้สูงอายุ พัฒนาตำบลต่างๆ ทั่วประเทศ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPF (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 36.25 บาท ได้ Sentiment บวก CPP ฮ่องกง (CPF ถือหุ้น 52%) แจ้งแนวโน้มกำไรครึ่งปีแรกโตก้าวกระโดด ยืนยันทิศทางผลกำไรของ CPF ออกมาเติบโตตามคาด โดยมีปัจจัยหนุนจาก ราคาหมู ไก่ ในประเทศยังเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหมูในเวียดนามยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง (8 หมื่น -1 แสนดงต่อ ก.ก.) นอกจากนี้ CPF ยังได้ประโยชน์จากต้นทุนกากถั่วเหลืองที่ลดลงสงผลให้มาร์จิ้นของบริษัทยิ่งเพิ่มขึ้น
  • PTTGC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 55 บาท คาด Q2/63 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 1.45 พันลบ. จากขาดทุน 8.78 พันลบ.ใน Q1/63 เพราะขาดทุนสต็อกลดลงมาก และ Spread ดีขึ้นทั้งอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์ แต่ยังฟื้นไม่เต็มที่เพราะโรงกลั่นเป็นตัวฉุด แนวโน้ม H2/63 จะดีขึ้นจากต้นทุนของธุรกิจโอเลฟินส์ที่ปรับขึ้นช้ากว่าน้ำมันดิบ ส่วนโรงกลั่นจะดีกว่าคู่แข่งเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางที่แพงขึ้น ด้านฐานะการเงินแกร่ง Net D/E 0.5 เท่า เงินสดในมือ 1.7 หมื่นลบ. (3.82 บ/หุ้น) และหุ้นเทรดที่ PBV เพียง 0.8 เท่า
  • GULF (เคทีบี) เป้าเชิงกลยุทธ์ 40 บาท ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นกลุ่มนี้ มี P/E ค่อนข้างสูง ถูกขายทำกำไรออกไปบ้างในช่วงที่ตลาดปรับฐาน มองว่า หากการปรับฐานของตลาดจบลง หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มโรงไฟฟ้าน่าจะกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง อีกทั้ง ครม. มีมติอนุมัติ กลุ่ม BGSR เข้าบริหารโครงการติดตั้งและบริหาร ระบบเก็บเงินมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี รวมทั้งโครงการที่อยู่ใน pipeline หรือรอการประมูล อาทิ โครงการ LNG to power 6.0GW อยู่ระหว่างรอการบรรจุเข้า PDP7-8 ของเวียดนาม และ โครงการโรงไฟฟ้า Hydro ในลาว 3 แห่งขนาด 2.4GW

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ