(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงตามภูมิภาคจากขายทำกำไรก่อนเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 14, 2020 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนลบ ยกเว้นตลาดหุ้นออสเตรเลีย จากแรงขายทำกำไรออกมาก่อนในช่วงรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งมองเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก และรอดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 2/63 ของไทยที่จะออกมาในวันจันทร์หน้าที่จะถึงนี้ (17 ส.ค.) ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ ช่วงนี้ก็คงจะเป็นลักษณะของการเล่นตามงบฯและปันผลไปก่อน ซึ่งบางคนก็อาจมองว่างบฯไตรมาส 2/63 เป็นช่วงที่แย่สุดแล้วก็อาจเป็นจุดที่จะทยอยซื้อลงทุนก็ได้สำหรับบางคน โดยให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป

พร้อมให้แนวรับ 1,332-1,326 จุด ส่วนแนวต้าน 1,353 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,896.72 จุด ลดลง 80.12 จุด (-0.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,373.43 จุด ลดลง 6.92 จุด (-0.20%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,042.50 จุด เพิ่มขึ้น 30.26 จุด (+0.27%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 74.31 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 158.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 53.16 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 9.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 11.47 จุด, ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.37 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ส.ค.63) 1,346.69 จุด เพิ่มขึ้น 9.85 จุด (+0.74%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 505.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ส.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 ส.ค.63) ปิดที่ 42.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 43 เซนต์ หรือ 1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ส.ค.) อยู่ที่ 0.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.06 ตลาดรอความชัดเจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ มองกรอบวันนี้ 31.00-31.10
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนทรุดหนัก 16% เหตุกังวลปัญหาการเมือง หวังทีมเศรษฐกิจใหม่ เร่งปลุกความเชื่อมั่น พร้อมเตรียมหารือ แผนพัฒนาตลาดทุนกับ รมว.คลังคนใหม่เร็วๆ นี้ ด้านภาคธุรกิจหวังการเมืองชุมนุมโดยสงบ ห่วงกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ
  • FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 16% ชี้นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ ด้านสถานการณ์การเมืองฉุดมากที่สุด พร้อมชงคลังต่ออายุ SSFX
  • นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงันเนื่องจากแต่ละประเทศ มีมาตรการเข้มข้นในการเฝ้าระวัง ทำให้การขับเคลื่อนทางธุรกิจไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งระบบอุปสงค์ อุปทาน ระบบโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนที่เกิดการชะลอตัว อันส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีเงินทุนในการทำธุรกิจน้อยกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่
  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยกรณีการชุมนุมประท้วงทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษาว่า หากเกิดเหตุการณ์ชุมนุมยืดเยื้อและบานปลายออกไป 3 เดือน อาจกดดันให้เศรษฐกิจปี 63 ติดลบไม่ต่ำกว่า 11% จากเดิมประเมินไว้ติดลบ 9.4% โดยประเมินจากการชุมนุมประท้วงของม็อบในอดีตแต่ละครั้งที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค การใช้จ่าย การลงทุนที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าการชุมนุมจะยาวนานขึ้นและนำไปสู่ความรุนแรงจนเกิดมีการปะทะกันอย่างรุนแรง
  • กระทรวงพาณิชย์ฟันธงครึ่งหลังปี 2563 การส่งออกไทยเริ่มฟื้นตัว หลังผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วช่วงไตรมาสที่ 2 ด้านประเทศคู่ค้าเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ คาดสินค้าเกษตรและอาหารยังเป็นไฮไลต์สำคัญ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTG (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 22 บาท ประกาศกำไรสุทธิ Q2/63 +151% Q-Q, +20% Y-Y สูงกว่าตลาดคาด 27% ปัจจัยหลักมาจากค่าการตลาดที่สูงถึง 2.07 บาท/ลิตร หนุนให้ Margin ขยายตัวเป็นตัวเลข 2 หลักที่ 12.3% แนวโน้ม H2/63 คาดว่าจะจะเติบโต H-H จากปริมาณการเดินทางโดยเฉพาะรถยนต์ที่เร่งตัวขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อ Demand ของทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซลในประเทศ รวมถึงได้ประโยชน์จาก Operating Leverage จากฐานธุรกิจรูปแบบ COCO ส่วนแบ่งรายได้จาก Palm Complex ที่เป็นไปตามเป้า และธุรกิจ Non-Oil ที่ฟื้นตัว
  • JMART (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 15 บาท ราคาหุ้นลดลงแรง 17% ในเวลา 1 สัปดาห์ สะท้อนข่าวแบงก์ชาติคุมเพดานดอกเบี้ยในธุรกิจไฟแนนซ์ไปแล้ว ส่วนงบ Q2/63 มีกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%yoy และ 53%qoq ราคาที่ลดลงเป็นโอกาสในการทยอยซื้อ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ