ETC มั่นใจเทรดวันแรกพรุ่งนี้พร้อมโชว์งบฯ H1/63 กำไรพุ่ง 135%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 17, 2020 16:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) กล่าวว่า การนำหุ้นไอพีโอ ETC เข้าเทรดในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีรายได้มั่นคง และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด -19 และวิกฤติเศรษฐกิจแต่อย่างใด อีกทั้ง ETC มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างสูงและต่อเนื่อง และ มีนโยบายการจ่ายปันผลที่ 50% ของกำไรสุทธิ จึงมั่นใจว่า ETC จะเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้นเติบโตสูง และ นักลงทุนหุ้นปันผลสูง

ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้ารวม 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93% จากรายได้รวม 161 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 135% จากกำไรสุทธิ 36 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับงบไตรมาส 2/63 บริษัทมีรายได้รวม 176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% จากรายได้รวม 86 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203% (QoQ) และ เพิ่มขึ้น 170% (YoY) จากกำไรสุทธิ 23 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ผลประกอบการที่เติบโตสูงมาจากการที่บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะครบทั้ง 3 แห่ง ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.50 เมกะวัตต์ เป็นไตรมาสแรก จากเดิมในปีทีแล้ว ETC รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพียงแห่งเดียวที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าใหม่ทั้ง 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าขยะ RH และโรงไฟฟ้าขยะ AVA มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง 6.83 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่สูงสุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น และทำให้มีอัตรากำไรต่อเมกะวัตต์ค่อนข้างสูง โดยในไตรมาส 2/63 นี้ ETC มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 56.25% และมีอัตรากำไรสุทธิ สูงถึง 35% อัตรารายได้รวมและอัตรากำไรของไตรมาส 2 นี้ อาจใช้เป็นมาตรฐานของการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากเป็นผลการดำเนินงานที่มาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง

นอกจากนี้บริษัทฯจะพยายามปรับปรุงเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ด้วยการบริหารดูแลซ่อมแซมโรงไฟฟ้า ตลอดจนลดต้นทุนการผลิต การบริหารและต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน

ส่วนแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีแผนการขยายกิจการในอนาคต โดยได้ศึกษาและวางแผนที่จะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ เช่นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 44 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะเปิดประมูลปลายปีนี้

บริษัทมีความมั่นใจด้วยศักยภาพของบริษัทและบริษัทแม่ คือ บมจ. เบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านการรับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และมีปริมาณขยะอัดก้อน(RDF) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สำคัญ และมีบริษัทย่อย ที่เป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะและชีวมวลแบบครบวงจร (EPC) จะสามารถประมูลโรงไฟฟ้าได้หลายโครงการ และสร้างการเติบโตให้กับ ETC ได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง" นายเอกรินทร์ กล่าว

ETC มีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม 3 แห่งคือ ที่จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และพิจิตร รวมกำลังการผลิต 20.4 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.5 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระยะเวลา 20 ปี โดย ETC เป็น บริษัทในกลุ่ม BWG ที่มีโรงงานผลิตขยะอัดก้อน (RDF) กำลังการผลิต 500,000 ตันต่อปีทำให้ ETC มีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง รวมถึงข้อได้เปรียบด้านคุณภาพ และต้นทุนเชื้อเพลิง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ