SSP เล็งออกวอร์แรนต์เตรียมเงินทุนรองรับโครงการใหม่หลังวางแผนสยายปีกใน CLMV

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 18, 2020 12:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทยืนยันว่าโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างตามแผนในขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและมีแผนจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์เรนด์) เพื่อระดมทุนเตรียมไว้สำหรับการลงทุนโครงการใหม่ ๆ

"โครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเตรียมการก่อสร้าง เรายืนยันว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มทุนแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการศึกษาและเตรียมออกวอร์แรนต์เพื่อรองรับกับโครงการใหม่ๆ ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 200 เมกะวัตต์"นายวรุตม์ กล่าว

สำหรับโครงการในปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบในไตรมาส 3/64 และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต กำลังผลิต 22 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ในเดือนนี้ โดยคาดจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ในเดือน ต.ค.64

พร้อมกันนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่กำลังรอนโยบายที่ชัดเจนจากภาครัฐ โดยสนใจที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าไบโอแมส และโรงไฟฟ้าขยะ นอกจากนี้ ยังศึกษาโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนามแห่งใหม่ กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติโครงการจากรัฐบาลเวียดนาม คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจะเริ่มก่อสร้างในปี 64

ในส่วนของโครงการประเทศเมียนมา บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรเข้าประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้วจำนวน 2-3 โครงการ ขนาดไม่เกิน 60 เมกะวัตต์ หลังจากรัฐบาลเมียนมาได้เปิดให้พัฒนาโรงไฟฟ้าขนาดกำลังผลิตรวม 1,000 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมาเลเซีย บริษัทเตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูลในเดือน ก.ย.63

และบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการพลังงานทดแทนที่ สปป.ลาว เพิ่มเติม ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชาเตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูลภายในปีนี้ ขณะเดียวกันมีโอกาสที่จะทำธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในอินโดนีเซียประมาณ 30-40 เมกะวัตต์ โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าในมือให้ได้ตามแผน 400 เมกวัตต์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 289 เมกะวัตต์ และจ่ายไฟเข้าระบบแล้ว 193 เมกะวัตต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ