SMT พุ่ง 6.19% โบรกฯเชียร์"ซื้อ"เล็งผลดำเนินงานฟื้นตัวเร็ว-กำไรจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 64

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 24, 2020 11:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น SMT ราคาพุ่งขึ้น 6.19% มาอยู่ที่ 2.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 17.52 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.31 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.32 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.44 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.28 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)(SMT) ให้ราคาเป้าหมาย 3 บาท เนื่องจากมีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวได้เร็ว ประกอบกับบริษัทมีจุดเด่นความพร้อมด้านการผลิต และบริหาร supply chain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนได้ดีขึ้น ทำให้รองรับคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม รวมทั้งไม่พบปัจจัยลบใหม่ที่กระทบปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ คงมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐานบริษัท คาดครึ่งปีหลัง (H2/63) ดีต่อเนื่อง โดยมองว่าการเหวี่ยงตัวลงของหุ้น SMT น่าจะมีสาเหตุจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่จากที่ตลาดรับรู้, SMT อยู่ในช่วงสร้างฐานรายได้และขยายลูกค้าเพิ่มเติม เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากลูกค้าไม่กี่ราย ทำให้อาจมีความเสี่ยงจากคำสั่งซื้อมีความไม่แน่นอน และ ราคาหุ้นปรับขึ้น outperform กลุ่มฯ และ SET ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไร

นอกจากนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง (H2/63) จะมีกำไรปกติ +48 ล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุน -71 ล้านบาท ในครึ่งหลังปี 62 (H2/62) และกำไรปกติ +5 ล้านบาท ในครึ่งปีแรก (H1/63) มีปัจจัยบวกจากยอดขายเติบโต y-y และ h-h ตามการส่งมอบสินค้าเพิ่มขึ้นทั้ง 3 กลุ่มหลัก โดยเฉพาะกลุ่ม Optics สำหรับสินค้า Telecom และมี gross margin เฉลี่ยราว 17.4% ดีขึ้นจาก 8.6% ในครึ่งหลังปี 62 (H2/62)

ส่วนปี 2564 คาดมีกำไร 129 ล้านบาท (+137%y-y) เติบโตก้าวกระโดดจากปี 2563 เนื่องจากคาดยอดขาย (+27%y-y) เติบโตดีขึ้นจากการเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่บางส่วน (กลุ่ม Optics สำหรับ Telecom) รวมทั้งมีคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่ม PCBA/Box build สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม และ Audio product นอกจากนี้ คาดว่า Gross margin จะดีขึ้นเป็น 19.3% และค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายมีสัดส่วนลดลง

การเปิดให้นักธุรกิจต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ จะเป็นโอกาสขยายฐานลูกค้าและสินค้าใหม่ที่บริษัทมีการติดต่อกับลูกค้าใหม่ไว้บางส่วน เบื้องต้นผู้บริหารคาดว่า กลุ่ม Optics จะขยายตลาดสู่สินค้าในกลุ่ม Auto และกลุ่ม PCBA/Box build จะขยายตลาดในกลุ่ม Medical devices ทั้งนี้หากบริษัทสามารถเพิ่มฐานลูกค้าในสินค้าใหม่ตามแผน โดยคาดว่าจะเป็น Upside ต่อประมาณการปี 64 เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ