ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดร่วงลงมากกว่า 3% ในวันนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนหวั่นวิตกหลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอีกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะความกังวลเรื่องตลาดซับไพรม์และตลาดสินเชื่อสหรัฐ หุ้นธนาคารได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากนักลงทุนได้เทขาย ท่ามกลางความกังวลเรื่องการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศหรือ CDO รวมถึงปัจจัยหนุนจากพันธบัตรและการปล่อยเงินกู้ ตลอดจนการปล่อยกู้จำนองแก่ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำในสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 127.05 จุด หรือ 3.7% ที่ระดับ 3,308.99 จุด จากระดับต่ำที่ 3,295.43 จุด ปริมาณการซื้อขาย 2.62 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.91 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ แกเบรียล ยัพ ผู้อำนวยการดีเอ็มจี แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า ความกังวลว่าตลาดสินเชื่อและตลาดซับไพรม์สหรัฐจะแพร่กระจายมายังเอเชียกำลังจุดชนวนให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้นในภูมิภาค ดีลเลอร์กล่าวว่า นักลงทุนรอแถลงการณ์การประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันอังคารนี้ เพื่อดูว่าเฟดจะแก้ปัญหาซับไพรม์หรือไม่ และคาดว่าคณะกรรมการเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ดีบีเอส วิกเกอร์ส ซิเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานในตลาดจะไม่ได้รับความเสียหาย ดัชนีสเตรทส์ไทม์อาจจะปรับตัวสูงขึ้นไปตามแรงสนับสนุนทางเทคนิคระยะยาวที่ 3,240 จุด หุ้นเวนเจอร์คอร์ปร่วง 40 เซนต์ แตะ 14.30 ดอลลาร์ แม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด